กรมชลประทาน ลงพื้นที่ไปชี้แจงเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ประมาณ 500 คน นำโดยผู้นำท้องถิ่น และตัวแทนเกษตรกรจากพื้นที่ต่างๆ เดินทางมาชุมนุมที่บริเวณเขื่อนนเรศวร อ.พรหมพิราม เพื่อขอให้โครงการชลประทานในเขตรับผิดชอบ ส่งน้ำไปช่วยเหลือนาข้าวที่เพาะปลูกไปแล้ว ไม่ให้เกิดความเสียหาย
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กลุ่มเกษตรกรที่เดินทางมาร้องขอน้ำจากกรมชลประทานในครั้งนี้ เป็นกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนนเรศวร โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลายชุมพล และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายมน่าน สืบเนื่องจากในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม 2563 มีฝนตกลงมาในพื้นที่ ทำให้เกษตรกรเห็นว่ามีน้ำต้นทุนที่พอจะทำนาได้ จึงเริ่มทำการเพาะปลูกหว่านข้าวนาปี แต่ต่อมาในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมจนถึงปัจจุบัน ปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่กลับลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ ประกอบกับปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ ปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์น้อย สามารถส่งน้ำสนับสนุนเฉพาะการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศในแม่น้ำน่าน เท่านั้น กรมชลประทาน พร้อมและหน่วยงานที่เกี่ยงข้องได้ร่วมชี้แจงต่อผู้นำชุมชนและตัวแทนเกษตรกรทำนา ให้ทราบถึงสถานการณ์น้ำต้นทุนที่มีอยู่ของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนการทำนาปีได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ำหากเกิดฝนทิ้งช่วง ควรรอให้ฝนตกอย่างสม่ำเสมอก่อนจึงเริ่มทำนาปีได้
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 3 จะดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการสนับสนุน เครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งระดับจังหวัด ระดับท้องถิ่น และสำนักงานป้องกันสาธารณภัยจังหวัด ในการเข้าไปช่วยเหลือในระยะเร่งด่วนกรณีที่ข้าวขาดน้ำ หากพื้นที่ใดมีแหล่งน้ำที่จะสนับสนุนได้ จะจัดส่งเครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยเหลือ รวมไปถึงการขุดลอกกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรในเบื้องต้น และหากมีความเสียหายเกิดขึ้นในพื้นที่หน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบเพื่อให้การช่วยเหลือด้านภัยพิบัติ ตามระเบียบของทางราชการต่อไป
