คืบหน้า รถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต วงเงินงบประมาณ 35,201 ล้านบาท และโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง มูลค่าลงทุน 14,177 ล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างปี 66 เสร็จปี 69
วันนี้ 3 พ.ย. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบผลการดำเนินงานโครงการระบบขนส่งมวลชน จ.ภูเก็ต ระยะที่ 1 ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยแนวเส้นทางโครงการของระบบขนส่งมวลชน จ.ภูเก็ต ระยะที่ 1 จะเริ่มจากสถานีท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตและไปสิ้นสุดบริเวณห้าแยกฉลอง ระยะทางรวม 42 กิโลเมตร มีสถานีทั้งสิ้น 21 สถานี มีศูนย์ซ่อมบำรุงตั้งอยู่บริเวณใกล้ห้างเทสโก้โลตัสถลาง ส่วนของระบบรถไฟฟ้า จะเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเบาประเภท Tram แบบพื้นต่ำ เป็นระบบล้อเหล็กหรือล้อยาง ความเร็วสูงสุดไม่ต่ำกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้ระบบจ่ายไฟฟ้าเหนือศีรษะ และมีระบบแบตเตอรี่สำรองสำหรับขับเคลื่อนในระยะสั้น คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารประมาณ 39,000 คนต่อวัน กรอบวงเงินลงทุนโครงการเบื้องต้น 35,201 ล้านบาท มีอัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุนเท่ากับ 1.12 และผลตอบแทนทางการเงินเท่ากับร้อยละ 2.34 ผลการศึกษาวิเคราะห์รูปแบบPPP ในเบื้องต้นพบว่า PPP Net Cost มีความเหมาะสม โดยรฟม.จะดำเนินการตามขั้นตอนของพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนปี 2562 ต่อไป
โดยตามแผนการดำเนินงานโครงการนั้น ครม.จะอนุมัติรูปแบบการลงทุนโครงการได้ในเดือน ต.ค.2564 คัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการในเดือน มี.ค.2565-มี.ค.2566 เริ่มก่อสร้างเดือน เม.ย.2566 และเปิดให้บริการในเดือน ก.ค.2569
ขณะเดียวกัน ครม.ยังได้รับทราบผลการดำเนินโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) มูลค่าลงทุน 14,177 ล้านบาท เป็นโครงการก่อสร้างทางยกระดับมีอุโมงค์อยู่ในช่วงกลางของแนวสายทางระยะทางรวม 3.98 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นโครงการเชื่อมกับถนนพระเมตตาในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จนถึงจุดสิ้นสุดโครงการในพื้นที่ต.กะทู้ บริเวณจุดตัดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4029 มีอัตราผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจร้อยละ 20.44 อัตราผลตอบแทนด้านการเงิน 8.94 คาดว่าจะมีปริมาณการใช้ทางพิเศษจำนวน 71,050คันต่อวัน
ส่วนความคืบหน้าของโครงการนั้น ทางกทพ.ได้ส่งรายงานผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการให้สคร. ซึ่งสคร.ได้ขอให้กทพ.เร่งดำเนินการขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ให้มีความชัดเจน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการขออนุญาตใช้พื้นที่ทั้งหมดแล้วเสร็จได้ภายในเดือนธ.ค.2563 โดยตามแผนงานจะคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการได้ในเดือนมิ.ย.2564- ม.ค.2566 ก่อสร้างโครงการเดือนก.พ.2566-ม.ค.2570 เปิดให้บริการได้ในเดือนก.พ.2570