ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น สั่งตั้งคกก.สอบกรณี สาวขอนแก่น ร้องความเป็นธรรม ตำรวจยัดยาเสพติด เรียกเงิน 2 แสนบาท แลกจบคดี
21 มิ.ย. 63 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงตามที่สื่อได้นำเสนอข่าว “สาวขอนแก่นโพสต์ขอความเป็นธรรม ตร.ยัดยาบ้า ขอ 2 แสนแลกจบคดี ยันไม่ได้ทำอะไรผิด” ในเขตพื้นที่ สภ.บ้านเป็ด จว.ขอนแก่น ว่า
ได้รับรายงานจาก สภ.บ้านเป็ด ว่า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.63 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมชาย อายุ 47 ปี บริเวณ บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 8 บ้านหนองหลุบ ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนัก 17 กรัม ซุกซ่อนในกระเป๋าคาดเอวเขียววางไว้บนที่นอนของผู้ต้องหา โดยจากการสอบถาม ผู้ต้องหาได้ให้การว่า มีญาติ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้หลบหนีไป เป็นผู้นำมาฝากให้ตนเก็บรักษาไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ร่วมมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย” โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ต่อมา ผู้ต้องหาได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบเห็นญาติของตน ซุกซ่อนยาเสพติดไว้ภายในรถยนต์ที่ขณะนั้นจอดอยู่บริเวณลานหน้าบ้านที่เกิดเหตุ และได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำตรวจค้นรถยนต์ โดยขณะตรวจค้น ได้มีญาติของผู้ต้องหาร่วมดูการตรวจค้นด้วย ผลการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 945 เม็ด และกัญชาแห้งน้ำหนักประมาณ 60 กรัม ซุกซ่อนอยู่เบาะหลังภายในรถยนต์คันดังกล่าว จึงได้ตรวจยึด ยาบ้า กัญชา และรถยนต์ไว้เป็นของกลาง และร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับญาติของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นชาย อายุ 58 ปี ตามกฎหมายต่อไป
รองโฆษก ตร. กว่าวต่ออีกว่า ในส่วนของประเด็นที่มีหญิงซึ่งเป็นญาติกับผู้ต้องหา ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการยัดยาและมีการเรียกเงินนั้น ทางพล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วในวันนี้ (20 มิ.ย.63) โดยให้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ พร้อมดำเนินการด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ทั้งนี้คงต้องรอให้ต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หากผลตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจบกพร่องและกระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด อีกทั้งหากถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการจับจุมปราบปรามผู้กระทำความผิดก็คงต้องให้ความเป็นธรรมด้วยเช่นกัน
ซึ่งที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำและกำชับหน่วยปฏิบัติทุกภาคส่วนมาโดยตลอดในการปราบปรามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่มาโดยตลอดในการประพฤติปฏิบัติหน้าที่ ภายใต้อำนาจหน้าที่ที่ได้รับตามกฎหมาย โดย ห้ามตำรวจ ใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบ เรียกรับผลประโยชน์ ขูดรีดประชาชน เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีเป็นอันขาด ประกอบกับให้ผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ลงไปกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด มิให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว
