ตำรวจขอนแก่นบุกรวบ เสี่ยแพร เจ้าหนี้โหดกระทืบ พีอาร์สาว ข้างสนามฟุตบอล ด้านแม่ยืนยันไม่ใช่เรื่องชู้สาว แค่ไปกู้เงินมา
จากกรณี เจ้าหนี้โหด ลากและตบ ใช้ปืนบีบีกันทำร้าย สาวพีอาร์ บริเวณสนามฟุตบอลแห่งหนึ่งของจังหวัดขอนแก่น ก่อนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือผู้หญิงคนดังกล่าว
ล่าสุด 15 ธ.ค. 63 มีรายงานข่าวว่า พ.ต.อ.นพเก้า โสมนัส รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันเปิดเผยความคืบหน้า คดี “เสี่ยแพร” นายทุนเงินกู้บุกทวงหนี้ น.ส.เอ สาวพีอาร์
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ลงพื้นที่ไปตามจับกุมตัว นายธเนศ เปล่งขำ อายุ 42 ปี หรือเสี่ยแพร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นในคดีดังกล่าว โดยที่ไม่รอให้เจ้าตัวเดินทางมามอบตัวตามที่มีการประสานมา เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจและเป็นนโยบายของทางรัฐบาลในการปราบปรามนายทุนเงินกู้ที่ทำผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนที่ลงพื้นที่นำหมายจับเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา สามารถจับกุมตัวเสี่ยแพร ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายในห้องพักของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ และอยู่ระหว่างการนำตัวเสี่ยแพรกลับมาสอบสวนที่สภ.เมืองขอนแก่น

คดีดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตรวจสอบพยาน หลักฐานต่างๆจนครบถ้วนสมบูรณ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายที่เตะฟุตบอลที่สนามฟุตบอลหญ้าเทียมดังกล่าว และเห็นเหตุการณ์จนได้เข้าระงับเหตุ รวมถึงการช่วยเหลือคนเจ็บ และพาผู้เสียหายส่งรพ.ขอนแก่น กระทั่งผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวน สอบสวน และรวบรวมหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับจับกุมตัวได้ดังกล่าวในวันนี้
ในข้อหาในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ข้อหาให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200 ,000บาท และข้อหา เป็นผู้ทวงถามหนี้กระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ ใช้ความรุนแรง หรือกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายของลูกหนี้ ตาม พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน500,000บาท แล้วก็ต้องสอบสวนขยายผลว่า มีบุคคลเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ รวมถึงการปล่อยเงินกู้นั้น ทำกันเป็นขบวนการหรือทำกันในรูปแบบแชร์ลูกโซ่หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นคณะพนักงานสอบสวนในคดีของน้องเอต้องทำการสอบสวนให้ชัดเจน เพราะไม่ว่าการทวงหนี้หรือเหตุใดๆก็ตาม จะทำร้ายร่างกายโหดร้ายเช่นนี้ไม่ได้”

ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ในทางคดีนั้นได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีลูกหนี้ที่ทำการกู้ยืมเสี่ยแพรอีก 5 ราย โดยได้กู้ยืมเป็นเงินหลักหมื่นบาท และคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลเพิ่มเติมในทุกๆด้าน หากพบบุคคลใดมีส่วนร่วมกระทำความผิดหรือหลักฐานเชื่อมโยงใครก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที
ขณะที่แม่ของสาวพีอาร์ ยืนยันว่า มีการติดต่อพูดคุยกันมาตลอด ไม่คิดว่านายแพรจะบุกมาทำร้ายร่างกายลูกจนเสียโฉม สิ่งที่นายแพรพูดว่าเป็นชู้กับลูกสาวไม่ใช่เป็นความจริง และทำให้เสียความรู้สึกอย่างมาก ยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด