ผู้ประกอบการเร่งระดมทั้งแรงงานคน-เครื่องจักรหนัก รื้อถอนคอนกรีตรุกล้ำหนานหินท่าหา คลองท่าดี คีรีวง ขณะที่เจ้าท่าภูมิภาคนครศรีธรรมราชเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกลำน้ำทุกราย
วันที่ 16 ตุลาคม 2562 บรรดา ผู้ประกอบการร้านค้าริมลำคลองท่าดี บ้านคีรีวง หมู่ที่ 9 ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา นครศรีธรรมราช ได้ระดมกำลังคนและเครื่องจักรหนักเร่งรื้อถอนคอนกรีตที่รุกล้ำไปในลำคลอง ให้กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด ตามข้อตกลงระหว่างหน่วยงานราชการและผู้ประกอบทั้ง 10 ราย ที่เทคอนกรีตรุกล้ำ มีความกว้างลงไปในลำน้ำราว 4-8 เมตร ยาวไม่น้อยกว่า 200 เมตร
โดยมี นายสำคัญ อรทัย นายอำเภอลานสกา และนายสันธนะ จันทร เจ้าท่าภูมิภาคที่ 14 นครศรีธรรมราช พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าบันทึกภาพสังเกตการณ์ ต่อมานายสันธนะ จันทร เจ้าท่าภูมิภาคที่ 14 นครศรีธรรมราช ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ลานสกา เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่ปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ โดยพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
นายสันธนะ ระบุว่าได้รับคำสั่งจากนายศิริพัฒน์ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยไม่มีข้อยกเว้นเนื่องจากหากไม่ดำเนินการเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง ภาระหลังจากนี้ทางเจ้าท่าจะต้องไปทำการตรวจสอบพื้นที่รุกล้ำของแต่ละรายว่ามีมากน้อยแค่ไหน ใครบ้างเพื่อนำส่งให้พนักงานสอบสวน ส่วนระวางโทษนั้นมีทั้งจำและปรับ เมื่อถามว่าการเร่งรื้อถอนของผู้ประกอบการจะเป็นเหตุในการบรรเทาโทษหรือไม่ เจ้าท่าภูมิภาคนครศรีธรรมราช ระบุว่าเป็นดุลพินิจของศาล

ขณะที่ นายสมพร อนุโต ผู้ประกอบเจ้าของร้านกาแฟ ซึ่งเป็นจุดที่ปรากฎในภาพแชร์ในสังคมออนไลน์ กล่าวว่า ยอมรับว่าผิดพลาดที่เทคอนกรีตลงไปในลำธาร ก่อนหน้าได้ตกลงกับนายอำเภอแล้วว่า จะดำเนินการรื้อ แต่เมื่อเป็นข่าวโด่งดังก็ต้องรื้อกันไป และต้องขอโทษผู้ที่รักธรรมชาติรักคีรีวงที่เป็นแบบนี้ สำหรับการลงทุนที่เกิดขึ้นนั้นถ้านับรวมที่จะรื้อด้วยแล้วประมาณ 1 แสนบาท แต่ไม่เป็นไรยอมรับสภาพ

นายสมพร ยังระบุสาเหตุการเทคอนกรีตด้วยว่า นักท่องเที่ยวนิยมที่สบาย ร้านคนอื่นเทพื้นคอนกรีตมีที่สบายเขาขายได้ แต่ตนเองขายไม่ได้จึงลงทุนทำพื้นคอนกรีตเพียงไม่กี่วันยังไม่ได้เริ่มขายก็มาเกิดเรื่องก่อน แต่ทั้งหมดยอมรับและรื้อออกทั้งหมดเหมือนกันทุกๆร้านตามข้อตกลงที่ได้ร่วมกันประชุม

อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการทั้ง 10 ราย ที่เร่งรื้อถอนคอนกรีตอยู่ในขณะนี้พยายามที่จะทำตามข้อตกลงในการรื้อถอนให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน โดยได้เพิ่มเครื่องจักรเข้ามาในช่วงเย็นของวันนี้เนื่องจากแรงงานคนไม่เพียงพอ ขณะเดียวกันยังไม่ทราบว่าได้ถูกแจ้งความดำเนินคดีจากเจ้าท่าภูมิภาคนครศรีธรรมราชแล้ว