กรมชลประทาน เผยเขื่อนอุบลรัตน์มีปริมาณน้ำใน เขื่อนอุบลรัตน์ ระบุน้ำไหลเข้าเขื่อนน้อยที่สุดในรอบ 53 ปี
เมื่อวันที่ 9 พ.ย. นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น สืบเนื่องจากปริมาณฝนที่ตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ยตลอดในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่รับน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ ส่งผลให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ น้อยที่สุดในรอบ 53 ปี นับตั้งแต่มีการก่อสร้างเขื่อน โดยปัจจุบันเขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยมาก เพียง 574 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 23 ของความจุอ่างเท่านั้น ในขณะที่ยังคงต้องระบายน้ำ เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการรักษาระบบนิเวศ วันละประมาณ 0.65 ล้านลูกบาศก์เมตร
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดขอนแก่น ได้ร่วมหารือกันถึงแนวทางในการนำน้ำก้นอ่างมาใช้ โดยในช่วงฤดูแล้งปี 2562 ต่อเนื่องไปจนถึงต้นฤดูฝนปีหน้า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2562 – 31 พ.ค. 2563 ได้เตรียมนำน้ำกันอ่างฯมาใช้ ตามแผนการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ คาดว่าจะต้องใช้น้ำก้นอ่างประมาณ 190 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะต้องติดตามการบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เนื่องจากปริมาณน้ำที่เหลือในเขื่อนอุบลรัตน์ สามารถสนับสนุนได้เฉพาะการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น ซึ่งการนำน้ำก้นอ่างมาใช้ จะไม่กระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวเขื่อนแต่อย่างใด
นายทวีศักดิ์ กล่าวด้วยว่า กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 6 ได้ทำการประเมินน้ำต้นทุนเขื่อนขนาดใหญ่และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ 5 จังหวัด ภาคอีสานกลาง ได้แก่ ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธ์ มหาสารคาม และร้อยเอ็ด เพื่อประเมินพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งด้านการอุปโภคบริโภค โดยได้เชิญภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมหารือกัน เพื่อให้รับทราบสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้สั่งการให้ทุกโครงการชลประทานในพื้นที่ จัดการประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทาน เพื่อให้ผู้ใช้น้ำได้หารือแนวทางบริหารจัดการน้ำร่วมกัน พร้อมเน้นย้ำให้ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำที่วางไว้ รวมทั้งต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรน้ำ ร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด เพียงพอใช้ไปจนถึงสิ้นเดือนก.ค. 2563