สมศักดิ์ ยัน อนาคตกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดแน่ เพราะเป็นปัญหาพะรุงพะรัง เสพแบบไม่จำเป็น ผู้ปลูก ร้านค้า-คาเฟ่ สามารถทำต่อได้เพียงแต่ขออนุญาตให้ถูกตามข้อกฏหมาย
25 มิ.ย. 68 จากที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงนามยกเลิกเสรีกัญชา ประกาศให้กัญชากลับมาเป็นสมุนไพรควบคุมเข้มข้น ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ซึ่งเป็นการยกเลิกประกาศฉบับก่อนหน้านี้
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ใจความสำคัญคือการควบคุมกัญชาให้ใช้อย่างเหมาะสมโดยเฉพาะทางการแพทย์ ทั้งการปลูก และการนำไปใช้ที่ต้องมีใบอนุญาตจากแพทย์ ซึ่งเป็นส่วนที่หายไปในฉบับก่อนหน้านี้ สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ ก็ยังสามารถใช้ได้เหมือนเดิมแบบไม่มีอุปสรรค ต่อให้เปลี่ยนกัญชากลับเป็นยาเสพติดแล้วก็ตาม แต่ถ้านำไปใช้ในทางที่ผิดคงต้องทบทวนใหม่ เพราะจุดประสงค์ก็ไม่ได้อยากให้มีการเสพแบบไม่มีความจำเป็น
ส่วนเรื่องของประมวลกฏหมายยาเสพติดนั้น ตนก็อยากทำให้กลับไปเป็นแบบประมาลกฏหมายที่ออกเมื่อพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ในมาตรา 24 ประเภทที่ 5 ซึ่งมีการควบคุมฝิ่น กัญชา น้ำกระท่อมที่เคยถูกยกเลิกไป ซึ่งอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สามารถนำเข้าหรือถอดถอนได้อยู่แล้วตามคำแนะนำของคณะกรรมการ ปปส. โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ส่วนตัวตนเอง มองว่ากัญชาเสรีเป็นปัญหาพะรุงพะรังที่ต้องแก้ไขเพราะเกี่ยวข้องกับหลายส่วน เชื่อว่าใช้เวลาเพียง 3 เดือนทุกอย่างจะดีขึ้น
ยืนยัน ไม่กระทบต่อผู้ที่ปลูกกัญชาอยู่ในตอนนี้ สามารถเก็บเกี่ยวได้ แต่ถ้าจะปลูกใหม่ต้องทำให้ถูกต้องตามกฏระเบียบ เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาอะไร เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ประกอบการ ร้านค้า-คาเฟ่ ยังสามารถทำต่อได้ แม้จะมีความวุ่นวายในช่วงแรก แต่หากมีเจตนาดี ก็ต้องทำตามกฏระเบียบ เพราะที่ผ่านมาตนได้รับการร้องเรียนจากเยาวชนกว่าแสนคน ให้นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เพียงแต่ติดปัญหาความเห็นไม่ตรงกันจากหลายฝ่าย แต่วันนี้เมื่อมีโอกาสก็อยากทำให้ถูกต้อง ฝากถึงน้อง ๆ เยาวชนกลุ่มนั้นว่า ตนกำลังทำตามแนวทางให้ดีที่สุด เชื่อจะชัดเจนยิ่งขึ้นภายในปลายปีงบประมาณหรือปลายปีนี้อย่างแน่นอน
ผู้ประกอบการ-ร้านจำหน่ายกัญชา ไม่เห็นด้วยหากนำกลับไปเป็นยาเสพติด
นายปรัญชัย ไชยมนตรี ตัวแทนชมรมผู้ประกอบการกัญชาและเศรษฐกิจเพื่อการแพทย์ พัทยา ชลบุรี เปิดเผยว่า หลังมีประกาศจากกระทรวงสาธารณสุข ทางชมรมได้สอบถามความคิดเห็นจากร้านค้าสมาชิกกว่า 100 แห่งในพื้นที่เมืองพัทยา พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่กังวลเกี่ยวกับทิศทางของกฎหมายและมาตรการควบคุมใหม่โดยเฉพาะในส่วนของระบบการจำหน่ายที่ยังไม่ชัดเจน อยากให้รัฐบาลเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.กัญชาให้มีผลบังคับใช้ เพื่อให้เกิดกรอบกฎหมายที่ชัดเจน ไม่ใช่เพียงแค่ประกาศกฎกระทรวง ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้ประกอบการ ซึ่งทุกคนดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง มีใบอนุญาตตามกฎหมาย ขอเรียกร้องให้มีมาตรการชดเชยหรือแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการ พร้อมเสนอให้จัดโซนจำหน่ายกัญชาเฉพาะในพื้นที่เมืองท่องเที่ยว และคำนึงถึงผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้กัญชาเพื่อการรักษา