เจ้าหน้าที่ระดมกำลังหาระเบิด อีก 3 ลูก โจรใต้ซุกแหลมพรมเทพ หาดป่าตอง แต่ไม่บอกตรงไหน หลังคาร์บอมป่วนสนามบินภูเก็ต
จากกรณีเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 68 เวลา 16.10 น. ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานภูเก็ต ได้รับแจ้งพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน 1 คัน จอดทิ้งไว้บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ ฝั่งอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) โดยก่อนหน้านี้มีรถจักรยานยนต์เข้ามาจอดจำนวน 2 คัน แต่มีการขับออกไปเพียง 1 คัน อีกคันถูกทิ้งไว้โดยไม่มีผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของ
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากการจับกุมนายมูหามะ วาเด็ง อายุ 29 ปี ชาว จ.ปัตตานี และ นายสุไลมาน กาซา อายุ 27 ปี ชาว จ.ปัตตานี 2 ผู้ต้องหาพร้อมวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ขณะกำลังขับรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีดำ ทะเบียน กฉ-9486 สุรินทร์ กลับออกจาก จ.ภูเก็ต และไปถูกจับได้ที่ด่านตรวจ สภ.เมืองพังงา เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา
โดยทั้งสองคนรับสารภาพว่า นำระเบิดไปวาง 4 ลูกจริง เป็นรถจักรยานยนต์บอมบ์ที่สนามบินภูเก็ต และวางระเบิดไว้ 2 ลูกที่หาดป่าตอง และอีก 1 ลูกที่แหลมพรหมเทพ

ด้านสำนักข่าวอิศรารายงานข่าวว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบของภูเก็ต จับตารถฮอนด้าซิตี้คันนี้มากเป็นพิเศษ เพราะติดป้ายทะเบียน จังหวัดสุรินทร์ เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยของเรากำลังมีความขัดแย้งกับกัมพูชา และมีความตึงเครียดตามแนวชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ เพราะกัมพูชาอ้างสิทธิ์เหนือ กลุ่มปราสาทตาเมือน ทั้่ง ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาควาย มีการสร้างสถานการณ์ยั่วยุต่างๆ นานา
ฉะนั้นเมื่อมีรถทะเบียนสุรินทร์ เข้าไปขับวนไปวนมาใน จ.ภูเก็ต ทำให้เจ้าหน้าที่ผิดสังเกต และสะกดรอยตาม
เมื่อรถคันนี้ขับเลี่ยงด่านตรวจที่ตัวเมืองพังงา เจ้าหน้าที่จึงสกัดจับ และเข้าค้นรถ กระทั่งพบว่าคนขับมาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีอุปกรณ์ประกอบระเบิดภายในรถ จึงยึดไว้ดำเนินคดี
ผลการสอบสวนเบื้องต้น ได้ข้อมูลจากทั้งสองคนว่า เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง กลุ่มBRN (บีอาร์เอ็น) ที่ต้องการขยายพื้นที่ก่อเหตุรุนแรง จึงนำรถและอุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่อง ขับขึ้นมาที่ จ.ภูเก็ต และเตรียมก่อเหตุระเบิด แต่ถูกจับได้เสียก่อน
โดยผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน เป็น “กลุ่มหน้าขาว” หมายถึงสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบ พวกที่ไม่มีประวัติในคดีความมั่นคง และไม่มีหมายจับ ไม่มีประวัติอาชญากรรม ซึ่งการเลือกใช้ “กลุ่มหน้าขาว” เพื่อให้ง่ายต่อการเคลื่อนไหว และ “คัตเอาต์” หรือ “ตัดตอน” ไม่ให้สาวถึงแกนนำของขบวนการ

ขอบคุณข้อมูล : สำนักข่าวอิศรา