เปิดสาเหตุ พีช บีเอ็ม หายตัวไปไหนทำไมติดต่อไม่ได้ ด้านนายกเบี้ยวโฟนอินโหนกระแสบอก ลูกผมตกใจ ไม่เคยเป็นข่าวดัง
18 เม.ย. 68 นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ “นายกเบี้ยว” อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี พ่อของ นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช บีเอ็ม โฟนอินเข้ารายการโหนกระแส ตอบข้อสงสัยหลังลูกชายไม่ขอโทษและเยี่ยมผู้บาดเจ็บ
นายกเบี้ยว ตอบคำถามของ หนุ่ม กรรชัย และลูกสาวของผู้บาดเจ็บว่า น้องพีช ยังตกใจและกลัวอยู่ เมื่อเช้าตนไปแวะเยี่ยมลุงป้า และลูกสะใภ้ที่ดูแลอยู่ ท่านบอกว่าทานข้าวได้ ส่วนคุณลุง หมอยังไม่อนุญาตให้เยี่ยม ลุงรู้สึกตัวแล้ว แต่ยังอยู่ห้องไอซียู ตนจึงฝากดูแล หากมีอะไรโทรหาตนได้เลย

“ผมยินดี ลูกผมจะถูกหรือผิด ผมก็เห็นใจลุงกับป้า เขาเป็นคนต่างจังหวัด เดินทางมาไกล ปกติตนไม่ได้มีอิทธิพล ใดๆ ผมช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว ลองถามชาวธัญบุรีดู นับประสาอะไรกับลูกเราเกิดอุบัติเหตุ ผมพร้อมจะดูแลคุณลุงคุณป้า”
“ตนเห็นคลิปภาพแล้ว การกระทำของลูกชาย ผมไม่ได้เข้าข้าง ผิดว่าไปตามผิด เมื่อก่อนน้องพีช ไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้ ระยะหลังผมกับลูกไม่ได้เจอกัน ลูกไปอยู่กับเพื่อนบ้าง เราก็รู้สึกเสียใจ ที่ดูแลลูก ไม่ดีเท่าที่ควร ผมต้องขอโทษลูกหลานลุงกับป้า ขอให้เชื่อผม ผมไม่ได้มาหลอก ผมเห็นใจ”
ลูกสาวลุงป้า เหยื่อ พีช บีเอ็ม ถามกลับนายกเบี้ยว
ลูกสาวลุงป้า ถามว่า อยากคุยกับพีช จะเป็นไปได้หรือไม่ ด้าน นายกเบี้ยว ตอบกลับ น้องพีชห่วงคุณป้ากับคุณลุงมาก เขาสำนึกแล้ว อยากจะมาเยี่ยม แต่เขายังไม่กล้ามา ซึ่งตนได้ขออนุญาตคุณป้า หากโอกาสหน้า น้องพีชจะเข้ามาเยี่ยมป้า อนุญาตหรือไม่
จากนั้นลูกสาวคุณลุงประจักษ์ แย้งว่า ได้พยายามติดต่อไปหาพีช เพื่อพูดคุยแต่ไม่ได้รับการตอบกลับ ด้าน นายกเบี้ยว เผยว่า เมื่อวานตนก็ติดต่อน้องพีชไม่ได้ เพิ่งเจอน้องพีชเมื่อคืน หัวอกพ่อ ผมก็ต้องค่อยๆ พูดกับลูก ให้เขาทบทวน

ขณะที่ กัน จอมพลัง โฟนอินเข้ารายกาโหนกระแส เพื่อพูดคุยกับนายกเบี้ยวเช่นกันพร้อมถามว่า ประเด็นลูกชายนายกเบี้ยว ลงสมัคร สท. ไปไหว้ขอคะแนนเสียงจากประชาชน แต่พอเกิดเรื่องทำไมไม่ออกมาขอโทษ มีแต่พ่อมาออกตัว นายกเบี้ยว กล่าวว่า เขาบอกว่าเกิดเหตุไปโรงพัก มีประกันมาเคลม เขาคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว จากนั้นมาเห็นข่าวทุกช่อง เขาก็กลัว เลยปิดมือถือ
“เรื่องลูกชายใบขับขี่หมดอายุ ผมไม่ทราบเลย ผมขอโทษสังคมด้วย ที่ผมไม่มีเวลาให้ลูก เราไม่ได้เจอกันเลย นานๆ เจอกัน แทบไม่ได้พูดคุยกันเลย ขอโทษที่บกพร่อง”
