สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ อาจไม่คุ้มเสมอไป! เช็กเงื่อนไขอื่น ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยจริง วงเงิน ระยะเวลาผ่อนและค่าธรรมเนียม เพื่อวางแผนสินเชื่อได้อย่างคุ้มค่า
หลายคนเมื่อต้องการขอสินเชื่อ มักมองหาข้อเสนอที่มีดอกเบี้ยสินเชื่อต่ำที่สุดเป็นอันดับแรก เพราะเชื่อว่าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตัวเลขดอกเบี้ยที่ดูน่าดึงดูดใจอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของความคุ้มค่าเสมอไป เพราะยังมีปัจจัยและค่าใช้จ่ายแฝงอื่น ๆ ที่อาจทำให้คุณต้องจ่ายแพงกว่าที่คิด บทความนี้ เราจะพาคุณไปดูว่าควรจะเลือกสินเชื่อโดยพิจารณาจากปัจจัยไหนบ้าง เพื่อให้คุณตัดสินใจได้คุ้มค่าที่สุดกัน
ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงมองแค่อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า
แม้อัตราดอกเบี้ยจะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจขอสินเชื่อ แต่หลายคนมักโฟกัสแค่อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า โดยไม่พิจารณารายละเอียดอื่น ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมแฝง ระยะเวลาผ่อนชำระ หรือภาระดอกเบี้ยรวมตลอดสัญญา ซึ่งอาจทำให้สุดท้ายแล้วต้องจ่ายมากกว่าที่คิดไว้ การมองเพียงเงื่อนไขดอกเบี้ยต่ำจุดเดียวนั้น จึงอาจไม่ใช่ทางเลือกที่คุ้มค่าจริง ๆ ในระยะยาว
เช็กให้ชัวร์! ปัจจัยที่ต้องพิจารณานอกเหนือจาก “ดอกเบี้ยสินเชื่อ”

อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี
ดอกเบี้ยที่โฆษณามักเป็นอัตราดอกเบี้ยต่อปีแบบคงที่ (Flat Rate) แต่ตัวเลขที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง คืออัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Effective Rate) ซึ่งรวมค่าธรรมเนียมต่าง ๆ แล้ว ทำให้เห็นภาพรวมค่าใช้จ่ายที่แท้จริงได้ชัดเจนกว่า ดังนั้น อย่าลืมสอบถามถึง Effective Rate ทุกครั้งก่อนตัดสินใจขอวงเงินสินเชื่อด้วย
ประเภทของดอกเบี้ย
ประเภทของดอกเบี้ยส่งผลโดยตรงต่อจำนวนเงินที่คุณต้องจ่าย ซึ่งโดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก
- อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) มักใช้กับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยคำนวณดอกเบี้ยจากเงินต้นเต็มจำนวนตลอดอายุสัญญา ทำให้ยอดผ่อนแต่ละเดือนเท่ากันตลอด แต่ข้อเสียคือแม้จะโปะ หรือปิดบัญชีก่อนกำหนด ก็อาจไม่ได้รับส่วนลดดอกเบี้ยมากนัก
- อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate) เป็นประเภทที่นิยมใช้ในสินเชื่อบ้านและสินเชื่อส่วนบุคคล โดยดอกเบี้ยจะถูกคำนวณจากยอดเงินต้นคงเหลือในแต่ละงวด ยิ่งคุณจ่ายเงินต้นไปมากเท่าไหร่ ดอกเบี้ยในงวดถัดไปก็จะยิ่งลดลงเท่านั้น การโปะหรือจ่ายเกินค่างวดจะช่วยให้หนี้หมดเร็วขึ้นและประหยัดดอกเบี้ยโดยรวมได้มากกว่า
ตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจน
สมมติว่าคุณกำลังพิจารณาสินเชื่อ 2 ประเภท เช่น
- สินเชื่อ A อัตราดอกเบี้ย 4% Flat Rate
- สินเชื่อ B อัตราดอกเบี้ย 6% Effective Rate
เมื่อมองแค่ตัวเลข 4% ย่อมดูน่าดึงดูดใจกว่า 6% แต่หากเราลองแปลง Flat Rate ของสินเชื่อ A ให้เป็น Effective Rate เพื่อเปรียบเทียบบนมาตรฐานเดียวกันตามสูตรจะได้ ดังนี้
4%×1.8 = Effective Rate 7.2%
จะเห็นได้ว่า แท้จริงแล้วสินเชื่อ A มีภาระดอกเบี้ยสูงถึงประมาณ 7.2% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าสินเชื่อ B ที่คิดดอกเบี้ย 6% แบบลดต้นลดดอกอย่างชัดเจน ดังนั้น ในการเปรียบเทียบสินเชื่อต่างประเภทกัน จึงควรยึดอัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate) เป็นมาตรฐานเสมอ เพื่อให้สามารถประเมินภาระค่าใช้จ่ายที่แท้จริงและตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุด
วงเงินอนุมัติและระยะเวลาผ่อนชำระ
ระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานขึ้น จะทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนลดลง ซึ่งช่วยเพิ่มสภาพคล่องในแต่ละเดือนได้ แต่ต้องแลกมากับภาระดอกเบี้ยรวมที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อออนไลน์ ควรลองคำนวณยอดดอกเบี้ยทั้งหมดที่คุณต้องจ่ายตลอดอายุสัญญา เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่าและเลือกแผนการผ่อนชำระที่สมดุลระหว่างความสามารถในการจ่ายต่อเดือนกับภาระดอกเบี้ยโดยรวม
วางแผนการขอสินเชื่อให้เหมาะกับเป้าหมายทางการเงินของคุณ
อย่าเพิ่งตัดสินใจกู้เงินออนไลน์ เพราะเห็นตัวเลขดอกเบี้ยสินเชื่อที่ต่ำที่สุด ทั้งนี้ ควรพิจารณาเงื่อนไขอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วยเสมอ ได้แก่
- ระยะเวลาในการผ่อน ระยะเวลาผ่อนที่นานขึ้น อาจทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนดูน้อยลง สบายกระเป๋าขึ้นก็จริง แต่เมื่อคำนวณดูแล้ว คุณอาจจะต้องจ่ายดอกเบี้ยสินเชื่อโดยรวมสูงขึ้นมาก ควรเลือกระยะเวลาที่สมดุล ไม่ทำให้การเงินตึงเกินไป แต่ก็ไม่ยืดเยื้อจนต้องจ่ายดอกเบี้ยเกินจำเป็น
- วงเงินอนุมัติ วงเงินที่ได้รับควรสอดคล้องกับความจำเป็นในการใช้เงินจริง ๆ การได้รับวงเงินสูงเกินไปอาจนำไปสู่การใช้จ่ายเกินตัวและสร้างภาระหนี้สินที่ไม่จำเป็นในอนาคต
- ความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ ก่อนตัดสินใจขอวงเงิน ควรประเมินรายรับ-รายจ่ายของตัวเองอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถผ่อนชำระคืนได้ตลอดรอดฝั่งโดยไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน
- อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม สิ่งสำคัญที่สุดคือความโปร่งใส บางครั้งผู้ให้บริการอาจมีค่าธรรมเนียมแฝงที่ทำให้ภาระหนี้สูงขึ้น ควรอ่านรายละเอียดและสอบถามให้แน่ใจว่าเงื่อนไขทั้งหมดมีความชัดเจน
- อ่านเงื่อนไขให้เข้าใจชัดเจน อย่ารีบตัดสินใจ ควรใช้เวลาศึกษาข้อตกลงให้ละเอียด ทั้งเรื่องการคำนวณดอกเบี้ย ระยะเวลาชำระเงิน การชำระขั้นต่ำและค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เพื่อหลีกเลี่ยงภาระที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

อย่างที่ ทีทีบี จะพิจารณาไปถึงภาพรวมทางการเงิน ตั้งแต่การวิเคราะห์โครงสร้างภาระหนี้ทั้งหมด ประเมินความสามารถในการผ่อนชำระ เพื่อให้แน่ใจว่าสินเชื่อที่คุณได้รับจะไม่กลายเป็นภาระที่หนักเกินไปในอนาคต เราพร้อมให้คำแนะนำเพื่อช่วยคุณวางแผนการกู้ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย และไม่หลงกลกับดักดอกเบี้ยต่ำที่อาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของคุณในระยะยาว หากคุณกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการทางการเงิน ต้องการเงินด่วนไปจัดการเรื่องสำคัญในชีวิตหรืออยากเคลียร์หนี้บัตรให้เบาลง สินเชื่อบุคคล แคชทูโก วงเงินอนุมัติสูงสุด 5 เท่าของรายได้เฉลี่ยต่อเดือน หรือสูงสุดถึง 2 ล้านบาท เลือกผ่อนได้นานสูงสุดถึง 72 เดือน พิเศษ! สำหรับลูกค้าทีทีบี สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพียงแค่ใช้บัญชี ทีทีบี ออลล์ฟรี 5 ครั้ง/เดือน พร้อมสมัครใช้บริการหักบัญชีอัตโนมัติ รับส่วนลดดอกเบี้ย 2% ต่อปี สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น แอป ttb touch และเว็บไซต์ ทีทีบี หรือสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ทีทีบี ทุกสาขา
สรุปบทความ
การเลือกขอวงเงินสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยสินเชื่อต่ำอาจไม่ใช่ทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุดเสมอไป หากยังไม่ได้พิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ให้รอบด้าน ทั้งอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Effective Rate) ประเภทของดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมแฝง วงเงินที่ได้รับ ความสามารถในการผ่อนชำระและระยะเวลาผ่อนชำระ เพราะการวางแผนขอสินเชื่อไม่ใช่แค่การมองหาดอกเบี้ยต่ำที่สุดเพียงอย่างเดียว แต่ควรคำนึงถึงเงื่อนไขโดยรวมให้รอบด้าน เพื่อให้สินเชื่อที่คุณเลือกเป็นตัวช่วยสร้างโอกาสและเสริมสภาพคล่องทางการเงินได้จริง ไม่ใช่กลายเป็นภาระในระยะยาว พอคุณมีข้อมูลครบถ้วนและตัดสินใจอย่างรอบคอบแล้ว การขอวงเงินกู้ก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการหนี้ได้อย่างเหมาะสม
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
-สินเชื่อส่วนบุคคล แคชทูโก อัตราดอกเบี้ย 18% – 25% ต่อปี
-เงื่อนไขการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
อ้างอิงข้อมูลจาก
–https://www.bot.or.th/th/satang-story/rights-responsibility/effectiverate.htmlฃ
–https://www.bot.or.th/th/satang-story/managing-debt/interest.html