หากจะวิเคราะห์ถึงอนาคตของพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ 2 พี่น้องตระกูลชินวัตรต้องหนีคดี กลายเป็นจำเลยหนีคดี หลายคนอาจมองว่าอนาคตนับจากนี้ไปของพรรคเพื่อไทยจะไปในทิศทางไหน และถึงเวลาที่จะล่มสลายของพรรคเพื่อไทย เพราะไม่มีใครสานต่อ หากย้อนมองแล้วยังมีอดีตตัวแทนอีกหลายที่จะทดแทนได้
หากย้อนไปดูภายในพรรคเพื่อไทยขณะนี้ สายป่านของตระกูลชินวัตรที่ยึดโยงในพรรคเพื่อไทย ยังคงเป็น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านวิบากกรรมมาหลายคดี
วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 นายสมชาย เคยถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจาก คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดียุบพรรคพลังประชาชน ด้วยความผิดที่สืบเนื่องมาจากกรณีที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ทุจริตการเลือกตั้งที่จังหวัดเชียงราย และถูกยุบพรรคพลังประชาชนตามกฏหมาย ซึ่งมีผลทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม อันเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ประกอบมาตรา 237 วรรคสอง และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคพลังประชาชนและกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน จำนวน 37 คน เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งรวมถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เดือนธันวาคม 2556 หากนับช่วงเวลาจากปี 5ปี นายสมชายก็พ้นจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองแล้ว
วิบากกรรมต่อมาเมื่อมา 7 ตุลาคม 2551 นายสมชาย ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ต้องเข้าแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่ถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนปิดอาคารรัฐสภา จึงต้องให้ทางตำรวจใช้แก้สน้ำตาเพื่อเปิดทางให้สมาชิกรัฐสภา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและมีผู้เสียชีวิต
7 กันยายน 2552 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดทางอาญาฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จนกระทั่งคดีนี้ใช้เวลาเกือบ 9 ปี เริ่มตั้งแต่ ป.ป.ช.มีคำสั่งชี้มูลความผิดจำเลย เมื่อปี 2552 และได้ส่งสำนวนคดีให้อัยการสูงสุด ทว่าอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้องในเดือนตุลาคม 2555 เพราะสำนวนฟ้องไม่สมบูรณ์
9 ก.พ. 2558 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา รับฟ้อง
2 สิงหาคม 2560 ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง แต่คดีนี้ ปปช. ยังมีสิทธิอุทรณ์ภายในวันที่ 1 กันยายน 2560 หากมีการอุทรณ์และองค์คณะผู้พิพากษารับฟ้อง เท่ากับว่า นายสมชาย ยังไม่พ้นมลทิน เพราะต้องรอคำสั่งของศาลอุทรณ์ว่าจะมีคำพิพากษาออกมาอย่างไร แต่คุณสมบัติของ นายสมชาย เพราะยังไม่ได้เข้าข่ายการขาดคุณสมบัติ เพราะต้องคำพิพากษาจำคุกและถูกคุมขังอยู่ในหมายของศาล
นายสมชาย เป็นสามีของ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือ “เจ้แดง” อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ที่เป็นผู้ผลักดันมาอยู่ในสนามการเมือง เท่ากับว่า นายสมชาย จะเป็น สายป่านจากตระกูลชินวัตร ที่มีคุณสมบัติสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ ไม่ขาดคุณสมบัติ จึงมองได้ว่า สายตระกูลชินวัตร ของพรรคยังไม่ขาดคนในตระกูลที่จะดูแลพรรคเพื่อไทยต่อไปได้ แต่ก็จะเป็นความท้าทายว่าจากนี้ไปตระกูลชินวัตรจะมีความกล้าส่งคนในตระกูลลงเล่นการเมืองอีกหรือไม่