ในช่วงเดือนตุลาคม ของปีนี้(2019) ประเทศญี่ปุ่นจะมีการปรับเพิ่มภาษีอุปโภคบริโภคเป็น 10% จากเดิม 8% ซึ่งที่ผ่านมาญี่ปุ่นเองเคยมีการปรับเพิ่มภาษีจาก 5% เป็น 8% เมื่อปี 2014
สำหรับภาษีที่จะปรับขึ้นนี้ไม่ได้เป็นการปรับขึ้นในทุกส่วน แต่เป็นการปรับขึ้นสำหรับสินค้าอาหารสด สินค้าที่ใช้ในการบริโภคอุปโภค เช่น กล้อง เลนส์ ของเล่น เสื้อผ้า นาฬิกา รองเท้า และ การทานอาหารภายในร้านอาหาร นั้นรวมถึงโรงอาหารของมหาวิทยาลัย ร้านอาหารในสวนสาธารณะหรือแม้กระทั่ง “ร้านสะดวกซื้อ” นอกจากนี้ยังรวมถึงส่วนของเครื่องดื่มแอลกฮอล์
ทางรัฐบาลญี่ปุ่นเล็งเห็นว่ามาตรการปรับเพิ่มภาษีในครั้งนี้ จะเป็นการหารายได้มาเสริมสวัสดิการเรียนฟรีของเยาวชนในประเทศและเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงในสังคมของประเทศญี่ปุ่น จะเป็นการแบ่งเบาภาระหนี้สาธารณะ รวมทั้งจัดระบบสวัสดิการด้านสุขภาพสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เพิ่มภาษีครั้งนี้จะส่งผลต่อใครบ้าง
แน่นอนว่าการเพิ่มภาษีในครั้งนี้ย่อมต้องส่งผลกระทบต่อคนในประเทศโดยตรง เพราะการปรับเพิ่มภาษีหมายถึงการมีภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นไปด้วย และผลกระทบอีกส่วนก็คือนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นหลังจากเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้เพราะภาษีส่วนมากที่ทางญี่ปุ่นปรับขึ้นล้วนเป็นสินค้าและบริการที่นักท่องเที่ยวจะต้องใช้จ่ายโดยตรง
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าในปี 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่นเองจะได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและจะต้องมีนักท่องเที่ยวแห่เข้ามาภายในประเทศอย่างมหาศาล ญี่ปุ่นเองจะสามารถเก็บภาษีได้มากมายขนาดไหน
เตรียมพร้อมรับบทบาท เจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก 2020
กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ,โตเกียว 2020 หรือชื่อที่เป็นทางการ กีฬาโอลิมปิกครั้งที่32 เป็นมหกรรมกีฬานานาชาติที่สำคัญในประเพณีโอลิมปิก โดยจัดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 9 สิงหาคม พ.ศ. 2563ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้กรุงโตเกียวเคยเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อปี 1964
ในการเตรียมพร้อมครั้งนี้ ทางมหานครโตเกียวได้ตั้งกองทุนสำรองจำนวน 400 พันล้านเยน หรือ มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายของการเป็นเจ้าภาพ
อ่านข่าว Bright Today