คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ยื่นหนังสือถึงประธาน สนช. เพื่อขอให้เลื่อนการบังคับใช้ พระราชกำหนดแรงงานต่างด้าว เพราะการบังคับใช้ทันที และมีโทษปรับถึง 4 แสนบาทสูงเกินไปสร้างผลกระทบกับอุตสาหกรรม SMEs ควรมีกฎหมายอนุบัญญัติเฉพาะจ่ายชดเชยแรงงานที่มากับนายจ้าง และประชาสัมพันธ์เร่งด่วน
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) นำโดย นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานหอการค้าแห่งประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อนำเสนอปัญหา การปฏิบัติ ตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2560 ที่ผ่านมา ว่า ทาง กกร. ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกผู้ประกอบการภาคเอกชนทั่วประเทศ ว่ากฏหมาย มีผลบังคับใช้ทันที และมีบทลงโทษที่สูงเกินไป ทำให้เกิดผลกระในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) ภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ ท่องเที่ยวและบริการ และกลุ่มวิถีชุมชนที่จ้างแรงงานต่างด้าว
ดังนั้นทาง กกร. มีข้อเสนอ 1. เปิดให้มีการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั่วประเทศอีกครั้ง เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าสู่ระบบการทำงานอีกครั้ง 2. ควรให้มีผู้แทนภาคเอกชนหรือกกร.เข้ามีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามพ.ร.ก.ได้และไม่กระทบต่อการจ้างแรงงานต่างด้าวมากเกินไป 3. ควรให้มีการกำหนดกฎหมายอนุบัญญัติเฉพาะในการจ่ายค่าชดเชยแรงงานต่างด้าว ที่มาทำงานกับนายจ้างในประเทศ และ 4.ควรมีการประชาสัมพันธ์ พ.ร.ก.ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ความรู้และความเข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติตามกฎหมายกับผู้ประกอบการ ตลอดจนตั้งศูนย์ในการให้คำปรึกษาของกระทรวงแรงงานต่อไป
ทางด้าน นายพรเพชร วิชัตชลชัย ประธาน สนช.กล่าวว่า พ.ร.ก.ออกโดยฝ่ายบริหาร ซึ่งจะต้องส่งมาให้ สนช.รับรอง ถ้ามีมติเห็นชอบก็จะมีผลบังคับใช้เป็น พ.ร.บ. ซึ่งทาง สนช.ได้รับร่าง พ.ร.ก.ซึ่งจะบรรจุเข้าสู่วาระประชุมในสัปดาห์หน้า โดย สนช. จะให้ความเห็นชอบหรือไม่ต้องศึกษา โดยหารือในวิป สนช.ว่าควรจะให้คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องคือคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และการแรงงาน ไปศึกษา ซึ่งอาจจะมีข้อสังเกตที่อาจจะนำไปสู่การปรับปรุงร่าง พ.ร.ก.เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล