โฆษกกองทัพบก ชี้แจง “คลิป ทหารขับรถชนเก๋ง” เป็นอุบัติเหตุ พร้อมขอโทษคู่กรณี ยืนยัน ทหารไม่ได้ขับรถหนี ระบุ เข้าไปเคลียร์ในกรมแล้ว ขออย่ามองแง่ลบ
วันที่ 20 มี.ค.60 พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณี การเผยแพร่คลิป จักรยานยนต์เกี่ยวกับรถทหารจนเสียหลักไปเบียดรถคนอื่นว่า อุบัติเหตุดังกล่าวเป็นรถยนต์ของทหาร สังกัด กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่11 ( ร.11 พัน.2 ) กำลังจะยูเทิร์น รถบริเวณถนนกำแพงเพชร 2 หรือ บริเวณห้างเจเจมอลล์ ซึ่งขณะนั้นได้มีรถจักรยานยนต์เบียดเข้ามาทางขวามือจากด้านหลัง และเกี่ยวเข้ากับรถยนต์ทหารทำให้เสียหลักไปเบียดกับรถเก๋งอีกคันหนึ่ง ทั้งนี้กำลังพลที่เป็นพลขับ ได้มีการลงไปพูดคุย กับคู่กรณีแล้วแต่คุยไม่รู้เรื่อง จึงได้ขับรถออกมาที่สถานีตำรวจบริเวณใต้ทางด่วน และคู่กรณีก็ขับรถตามมา และเคลียร์กันอีกครั้งหนึ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นพยาน สุดท้ายทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้โดย เจ้าหน้าที่ทหารได้กล่าวขอโทษคู่กรณี และคู่กรณีก็ไม่ติดใจเอาความ และต่างคนต่างซ่อมรถของตัวเอง
พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า สวนที่คู่กรณีมีการระบุว่า ทหารให้ไปเคลียร์กันในกรมนั้น ขอชี้แจงว่า ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร จะไปคุยในกรมหรือเป็นที่กองทัพบกก็ได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะจะสามารถให้ความยุติธรรมได้และมีผู้บังคับบัญชาอยู่ด้วย อย่าไปมองว่าคุยในกรมแล้ว จะไม่ได้รับความยุติธรรม หรือทหารจะช่วยเหลือกัน คงไม่ใช่ ยิ่งมีประชาชนเข้ามาร้องเรียน หรือขอความเป็นธรรมในหน่วยทหาร ทหารยิ่งจะต้องดูแลเป็นอย่างดี อย่ามองในแง่ลบ
“จากการตรวจสอบยืนยันว่า ทหารไม่ได้ชนแล้วหนี แต่เนื่องจากขณะนั้น คู่กรณีมีอารมณ์รุนแรง และพิจารณาแล้ว คิดว่าคงคุยกันไม่รู้เรื่อง เลยขับรถออกไป รถทหารเป็นรถขนาดใหญ่ มีสังกัดชัดเจนว่ามาจากหน่วยใด ทหารไม่ได้หนีเพราะเฉี่ยวชน แต่หนีอารมณ์ของคู่กรณี และเมื่อเจอบุคคลที่สาม คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงจอดเพื่อไกล่เกลี่ยกัน แต่ในส่วนของคู่กรณีเอาคลิปไปโพสต์ เพื่อให้สังคมเข้าใจว่าทหารชนแล้วหน” พ.อ.วินธัย กล่าว
เมื่อถามว่า ขณะนี้เคลียร์กับคู่กรณีจบด้วยดีใช่หรือไม่ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาของทหารที่เป็นพลขับดังกล่าว พึ่งทราบเรื่องเมื่อเช้านี้ แม้ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ต้องมีการสอบสวนพลขับคนดังกล่าว ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะทหารคนดังกล่าวอยู่ในสังกัดของตนเอง