รองนายกรัฐมนตรี ยืนยัน การเรียกเก็บภาษีกับนักการเมืองที่เข้าข่ายเลี่ยงภาษี ใช้มาตรฐานเดียวกัน กับกรณี “ทักษิณ ชินวัตร” โดยการประเมินการทุกอย่าง เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมปกติ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แจ้งกรมสรรพากรให้เรียกเก็บภาษีจากนักการเมือง ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เสียภาษีไม่ถูกต้อง เข้าข่ายการหลีกเลี่ยงภาษี ว่า ได้รับรายงานแล้ว แต่เท่าที่ทราบมีนักการเมืองที่เข้าขายเลี่ยงภาษี ประมาณ 20-30 คน ไม่ใช่ 60 คน แต่ยังไม่เห็นรายชื่อว่ามีใครบ้าง โดยการดำเนินการก็จะต้องใช้มาตรฐานเดียวกันกับ กรณีของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ส่วนบรรทัดฐานว่าใครจะถูกหรือผิด อยู่ที่ศาลจะตัดสิน ซึ่งการดำเนินการจะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมปกติไม่ใช้มาตรา 44 และไม่อยากให้นำไปโยงกับการสร้างความปรองดองที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน
นายวิษณุ กล่าวว่า การเรียกเก็บภาษีกับอดีตนายกรัฐมนตรี นอกจากกระบวนการของสรรพากรแล้ว ยังมีกระบวนการของหน่วยงานอื่นดำเนินการควบคู่กันไปด้วย แต่ไม่ขอเปิดเผย เพราะเกรงจะเสียรูปคดี พร้อมย้ำว่า การดำเนินการของรัฐบาล เนื่องจากสังคมตั้งข้อสังเกตุ หากรัฐบาลไม่ดำเนินการจะถูกกล่าวหา ว่าปล่อยปะละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ได้ และหากศาลตัดสินว่าอดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องจ่ายภาษี แต่ทรัพย์สินส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ ก็ต้องไปพิสูจน์กันว่าทรัพย์สินที่โอนให้บุตรก่อน หรือหลังจากถูกฟ้องร้องดำเนินคดีภายใน 1 ปีหรือไม่ หากพิสูจน์ได้ ก็สามารถนำกลับมา เพื่อจ่ายภาษีให้กรมสรรพากรได้