ศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องมือปืนป๊อปคอร์นเหตุภาพหลักฐานไม่มีที่มาที่ชัดเจน ไม่ทีพยานยืนยัน
วันนี้ ( 27 มิ.ย.) ที่ ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือ ท็อป มือปืนป๊อปคอร์น ตกเป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และนำอาวุธปืนออกนอกเคหสถานภายในพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
จากกรณีเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 ผู้ก่อเหตุสวมชุดดำ และหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า มือถือถุงป๊อบคอน เดินมาจากเวที กปปส. ที่ห้าแยกลาดพร้าว และใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในห้าง ไอทีสแควร์ ที่มีกลุ่มเห็นต่างเรื่องการเลือกตั้ง อีกทั้งบริเวณแยกหลักสี่ดังกล่าว ยังถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เหตุการณ์นี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 2 คน
คดีนี้ศาลชั้นต้นเห็นว่าจากพยานหลักฐานภาพถ่ายและคลิปวิดิโอเชื่อได้ว่าคนที่สวมหมวกไหมพรมและถืออาวุธปืนในถุงป๊อบคอร์นคือนายวิวัฒน์จริงจึงพิพากษาจำคุกจำเลย 37 ปี 4 เดือน แต่จำเลยยื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์พยานหลักฐานที่ตำรวจสืบสวนหาผู้ต้องสงสัยมาเปรียบเทียบกับภาพคลิปวิดีโอที่นำมาจากในสื่อโซเชียลมีเดีย และระบุว่าผู้ก่อเหตุที่สวมชุดดำและสวมหมวกไหมพรมปิดบังอำพรางใบหน้ามีลักษณะรูปร่างตรงกับนายวิวัฒน์นั้น ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นบุคคลเดียวกัน ประกอบกับภาพคลิปวิดีโอดังกล่าวนำมาจากในสื่อโซเชียลมีเดีย ที่มีผู้ใช้จำนวนมากสามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยไม่ได้นำพยานบุคคลที่ถ่ายคลิปวิดีโอดังกล่าวมายืนยัน ไม่มีต้นตอของภาพดังกล่าว แม้จะมีประจักพยานอยู่ในที่เกิดเหตุหลายคน แต่ในสำนวนการสอบสวนกลับมีเพียงคำให้การที่มีพิรุธของจำเลย ดังนั้นศาลจึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษากลับให้ยกฟ้องนายวิวัฒน์