ทำแท้ง เพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของสตรีและเด็ก ล่าสุด ครม. ได้เห็นชอบแก้กฎหมายอาญามาตรา 301 ให้หญิงที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ สามารถทำแท้งได้
ผู้หญิงปลดแอก เตรียมยื่น! ยกเลิกกฎหมายม.301 ลงโทษผู้หญิงทำแท้ง
โดยหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม. ได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 301 และ 305 ว่าด้วยความผิดฐานทำให้แท้งลูก
สืบเนื่องจากจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ดังว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 301 กำหนดให้หญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูกหรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูกมีความผิดอาญานั้น เป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของหญิงเกินจำเป็น ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 28 บุคคลย่อมมีสิทธิเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยดังกล่าว วันที่ 3 มีนาคม 2563 ครม. จึงได้มีมติให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 301 และ มาตรา 305 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งสาระสำคัญของการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 301 คือ ให้หญิงที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์สามารถทำแท้งได้ จากเดิมที่ห้ามหญิงตั้งครรภ์ทำแท้งโดยเด็ดขาด, หญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูก หรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูกขณะมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นการลดโทษจากเดิมที่กำหนดให้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 305 ‘มาตรา 305 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 301 หรือ 302 เป็นการกระทำของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภาในกรณีดังต่อไปนี้ ผู้กระทำไม่มีความผิด 1. จำเป็นต้องกระทำ เนื่องจากหากหญิงตั้งครรภ์ต่อไปจะเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายต่อสุขภาพทางกายหรือจิตใจของหญิงนั้น 2. จำเป็นต้องกระทำ เนื่องจากหากทารกคลอดออกมาจะมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะได้รับผลกระทบจากความผิดปกติทางกายหรือจิตใจถึงขนาดทุพพลภาพอย่างร้ายแรง 3. หญิงมีครรภ์เนื่องจากมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศ 4. หญิงซึ่งมีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์’
ซึ่งในลำดับถัดไปจะมีการส่งร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาดังกล่าว ให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แล้วเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาโดยด่วน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ก่อนวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 โดยนางสาวรัชดาก็ได้กล่าวเพิ่มเกี่ยวกับข้อดีของการแก้ไขเพิ่มเติมว่าการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับการทำแท้ง นั้นถือเป็นการส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิของผู้หญิงและชีวิตของทารกในครรภ์อย่างมีดุลยภาพ ลดแรงจูงใจในการไปหาหมอทำแท้งเถื่อนที่ผิดกฎหมายและไม่ปลอดภัยต่อชีวิตได้
“ธัญวัจน์”ก้าวไกล เดินหน้าแก้กฎหมาย คนไทยค้าประเวณี-ทำแท้ง ได้ไม่ต้องกลัวถูกจับ
ออสเตรเลีย อนุมัติให้การ ทำแท้งถูกกฎหมาย ครบทุกรัฐแล้ว
ขอขอบคุณภาพจาก รัชดา ธนาดิเรก – รองโฆษกรัฐบาล
