วิษณุ ชี้ รัฐบาลออก พ.ร.บ.กู้เงิน ทำโครงการ แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ได้!

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2566  กรณี นโยบายแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ของรัฐบาลเพื่อไทย กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ซึ่งมีทั้งผู้คนที่เห็นด้วย และผู้คนที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ เนื่องจาก พรบ.กู้เงิน อาจส่งผลกระทบในอนาคต ทั้งประเทศชาติ และประชาชน ที่ต้องแบกรับหนี้จำนวนว่า 500,000 ล้านบาท เปรียบเสมือนกู้เงิน เพื่อมาใช้แจกเงิน ซึ่งอาจทำให้ไม่คุ้มเสีย

ล่าสุด นายวิษณุ เครืองาม ในฐานะคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้มีการแสดงความคิดเห็นถึงโครงการดังกล่าวว่า นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 หมื่นบาท ที่ขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนส่งคณะกรรมกฤษฎีกา เพื่อทำการตรวจสอบข้อกฎหมายที่ถูกมองอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ เบื้องต้น ในส่วนนี้ตนยังไม่รู้เรื่อง และคงให้ความคิดเห็นไม่ได้ เพราะเมื่อส่งมาที่คณะกรรมกฤษฎีกาแล้ว ก็ต้องส่งไปคณะอื่นแทน ไม่ได้มีการส่งมาที่คณะของตน ส่วนตัวเข้าใจว่า เรื่องถูกส่งไปที่คณะของ นายพนัส สิมะเสถียร กรรมการกฤษฎีกา

• ชาวเน็ตขุดโพสต์ ภูมิธรรม เพื่อไทย เคยซัด ลุงตู่ ทำเป็นแต่ กู้มาแจก
  
  
• เพิ่มค่าหัว เสี่ยแป้ง นาโหนด 1 ล้าน เชื่อยังซ่อนตัวอยู่บนเขาบรรทัด
  
  
• พายุ เนื่องจำนงค์ จี้รัฐบาล แก้ปัญหาปืนเถื่อน อย่าทำแบบอุดรูเป็นครั้งๆ

นายวิษณุ ยังกล่าวอีกว่า ในแง่ของกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ตนก็ไม่รู้เช่นกัน เนื่องจากตนไม่เคยดูเรื่องนี้ เพราะว่าตอนแรกเขาก็พูดกันไม่รู้เรื่องว่าคืออะไรมาจากไหน แล้วก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาถามไปว่ายังไง ส่วนเรื่อง พระราชบัญญัติกู้เงิน หรือ พ.ร.บ.กู้เงิน ส่วนตัวมองว่าทำได้อยู่แล้ว แต่ว่าจะผ่าน รัฐสภาหรือไม่ หรือว่าอาจมีคนส่งศาลรัฐธรรมนูญตอนหลังก็ทำได้ เหมือนการออกกฎหมายทั่วไป ส่วนจะผิดวินัยการเงิน การคลังหรือไม่นั้น ทางรัฐบาลคงถือว่าเขาดูดีแล้วว่าไม่ขัด พ.ร.บ.วินัยการเงิน การคลังฯ มาตรา 6 และ มาตรา 9 แต่อีกฝ่ายก็บอกว่าขัด เพราะมีประโยคที่ต้องแปลกัน ที่ระบุว่าต้องไม่ใช้ประโยชน์ไปในการหาเสียง หาคะแนนนิยม

ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดที่มาของงบประมาณโครงการนั้น คำตอบที่เป็นไปได้มากที่สุดในการดำเนินนโยบายนี้ คือการออก พ.ร.บ.เป็นวงเงิน 500,000 ล้านบาท ซึ่งมีความโปร่งใส ภายใต้การตรวจสอบถ่วงดุลในระบบรัฐสภา ซึ่งมั่นใจว่า จะได้รับการอนุมัติโดยรัฐสภา และเป็นไปตามมาตรา 53 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 พ.ร.บ.การกู้เงินดังกล่าวจะระบุวัตถุประสงค์ของการกู้เงิน ระยะเวลาในการกู้เงิน แผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ วงเงินที่อนุญาตให้ใช้จ่ายเงินกู้ และหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินแผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ในโครงการ Digital Wallet ให้ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และรัฐบาลจะทำการกู้เงิน ก็ต่อเมื่อมีการนำเงินไปใช้และนำมาขึ้นเป็นเงินสด ซึ่งนี่จะเป็นการทำให้เงินในระบบทั้งหมดใหญ่ขึ้นกว่า 500,000 ล้าน ซึ่งจะหมุนเวียนและกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยยะ ผสมกับงบประมาณ 100,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการที่กล่าวไปทั้งหมด ทุกท่านไม่ต้องห่วงเรื่องของการใช้เงินคืน รัฐบาลจะมีแผนจัดสรรเงินงบประมาณมาเพื่อจ่ายคืนเงินส่วนที่เป็นเงินกู้ตลอดระยะเวลา 4 ปี