วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่อากาศยาน ทหารอียิปต์ เข้าประเทศไทย ว่า ขั้นตอนคือสถานทูตของประเทศแต่ละประเทศ จะติดต่อไปยังกระทรวงต่างประเทศ และเมื่อกระทรวงต่างประเทศเห็นว่าเป็นเครื่องบินทหาร ก็จะประสานมายังกองทัพอากาศพิจารณาว่ามีความขัดแย้งเรื่องความมั่นคงหรือไม่ หลังกองทัพอากาศตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีปัญหาเรื่องความมั่นคง และเคยมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ก็ตอบกลับไปยังกระทรวงต่างประเทศว่าไม่ขัดข้องถือเป็นการทำหน้าที่ตามปกติของกองทัพอากาศ ที่ต้องพิจารณาในส่วนที่ต้องรับผิดชอบ
โดยกองทัพอากาศ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้พิจารณาในกรณีที่เป็นเครื่องทหารว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง และเมื่อเครื่องมาลงในพื้นที่แล้วทุกอย่างต้องเข้าสู่มาตรการที่ได้กำหนดไว้ ไม่ใช่ว่ากองทัพอากาศมีอำนาจพิจารณาอยู่ในขอบเขตที่จำกัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับขั้นตอนการขอบินผ่านและขึ้นลงในประเทศไทยของกองทัพอากาศ คือ 1. สถานเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ส่งคําขอไปยังกระทรวงต่างประเทศ 2. กระทรวงต่างประเทศ พิจารณาเหตุผลความจําเป็น และทําหนังสือถึงกองทัพอากาศ เพื่อขออนุมัติให้เครื่องบินทางทหารบินผ่านและขึ้นลงในประเทศไทย ภายใต้ข้อพิจารณาด้านความมั่นคงปลอดภัยทางการทหาร ความเป็นพันธมิตร : พันธะทางทหารที่มีต่อกัน 3. กองทัพอากาศพิจารณา กฎ ระเบียบ และข้อปฏิบัติทางทหารสอดรับกับอํานาจหน้าที่ที่รับผิดชอบ โดยมีหัวข้อการพิจารณา ดังนี้
3.1 การบินผ่าน และขึ้นลงในประเทศไทยอยู่ในความดูแลของบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย และ ศูนย์ยุทธการทางอากาศ กองทัพอากาศ ซึ่งเป็นไปตามกฎการบินสากล และไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
3.2 คําสั่ง คค.ที่ 90/2553 ลง 24 มีนาคม 2553 เรื่องมอบอํานาจตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497 ในการลงนามแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
3.3 อาศัยอํานาจตามความในมาตรา5 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 พระราชกําหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 3 การปิดช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรไม่ว่าจะเป็น อากาศยาน เรือ รถยนต์ หรือพาหนะอื่นใด หรือในการใช้เส้นทางคมนาคม ไม่ว่าทางอากาศ ทางน้ํา หรือทางบก ยกเว้นเป็นผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ที่ประจํายานพาหนะ ซึ่งจําเป็นต้องเดินทางเข้ามาตามภารกิจ และมีกําหนดเดินทางออกชัดเจน
ทั้งนี้ เมื่อกองทัพอากาศพิจารณาและลงนามอนุมัติเรียบร้อยแล้ว จะส่งเรื่องให้กระทรวงการต่างประเทศ ดําเนินการต่อไป จากนั้นกระทรวงการต่างประเทศส่งเรื่องให้สถานเอกอัครราชทูตของประเทศต่างๆ และสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ดําเนินการประสานสนามบินปลายทาง นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ กับกระทรวงการต่างประเทศจะต้องประสานกันเรื่องการป้องกัน โรคติดต่อให้เป็นไปตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และตามประกาศ ข้อบังคับของ ศบค. และ ในการดําเนินการพิธีการตรวจคนเข้าเมือง จะมีศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยาน (EOC) ตรวจคัด กรองโรคติดต่อ และการดําเนินการด้าน State Quarantines/Local Quarantine ในการดูแลควบคุมต่อไป
อย่างไรก็ตาม ภารกิจอากาศยานอียิปต์เป็นภารกิจบินเดินทางประจำในลักษณะของการบินของอากาศยานของรัฐ/State Aircraft จากต้นทางถึงปลายทาง เป็นความชอบธรรมทางกฎหมายในการขอลงจอดเพื่อเติมน้ำมัน พักเครื่องและลูกเรือ เฉกเช่น การบินของอากาศยานของประเทศไทย ที่สามารถจะประสานขอลงจอด พักเครื่องและลูกเรือ ในระหว่างต้นทางถึงปลายทางได้