อภิปรายไม่ไว้วางใจ ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย สรุปเนื้อหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยชี้ให้เห็นปัญหาการพยายามขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญตลอดเวลาที่ผ่านมาอย่างน่าสนใจ
1. ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ประชาชนคนไทยได้รู้จักกับบุคคลที่นำหน้าด้วย ‘ลุง’ อยู่หลายคน คนแรกคือ ‘ลุงกำนัน’ ผู้ที่ออกมาปลุกมวลมหาประชาชนแล้วเรียกทหารออกมา นำมาสู่การรัฐประหาร คนที่สองคือ ‘ลุงพล’ แห่งบ้านกกกอก แต่สองคนนี้ก็ไม่ ‘ติดชาร์จ’ เท่ากับลุงคนล่าสุด ‘ลุงตู่แห่งบ้านกลับกลอก’
2. ที่ว่า ‘กลับกลอก’ คือการพูดอย่างทำอย่าง สั่งการอย่างหนึ่งอีกวันสั่งเปลี่ยน โดยเฉพาะเรื่องใหญ่การพยายาม ‘การเลื่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ’ ทั้งยื้อและขัดขวางจากฝ่ายรัฐบาล มีทั้งการเตะถ่วงเวลาตั้งคณะกรรมาธิการให้ยืดเวลาออกไปจนประชาชนไม่พอใจ หรือเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ดำเนินการตามกระบวนการมาอยู่ดีๆ ก็ถูกหักกลางสภา ให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้อยู่ในอำนาจของสภาหรือไม่ ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นเลย
3. ต่อมาประธานสภา ขอไม่ให้ใช้คำว่า ‘กลับกลอก’ ครูมานิตจึงพ้อว่า “ไอ้ผมมันคนเรียนมาน้อย ผมจบครุศาสตรบัณฑิต ท่านจบวิทยาศาสตรบัณฑิต..เท่ากัน เพียงแต่บุญวาสนาไม่เท่ากัน ท่านมีทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ ตำรวจเป็นบังเกอร์ แต่ผมมีครู กศน. ครูประถม ครูมัธยม และประชาชนเป็นบังเกอร์”
4. ยืนยันว่าตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศไม่เคยดำเนินการปฏิรูปการเมืองหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่ได้บอกไว้เลย ทั้ง ๆ ที่ พรรคฝ่ายค้าน พร้อมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่ออนาคตของลูกหลาน ให้มีที่ยืนในสายตาชาวโลก แต่รัฐบาลไม่เคยทำในสิ่งที่เคยพูดไว้ โดยเฉพาะนายกฯ ที่ได้พูดกับสภา ดังนั้นการพยายามยื้อการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาหลายครั้ง นายกฯ จะอ้างว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้เลย