ทราย เจริญปุระ – จากกรณีที่ผู้ชุมนุมรายหนึ่งได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านการคุกคามทางเพศในสถานศึกษา โดยการสวมชุดนักเรียนพร้อมทั้งชูป้าย “หนูถูกครูทำอนาจาร ร.ร.ไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัย” ภายในงาน “บ๊ายบายไดโนเสาร์” ที่จัดโดยกลุ่มนักเรียนเลววานนี้ (21 พ.ย. 63) ต่อมามีการเปิดเผยว่าผู้ชุมนุมคนดังกล่าวถูกทำอนาจารในโรงเรียนเมื่อเธออยู่ม.5 และตัดสินใจออกมาเปิดเผยเรื่องราวเพื่อเรียกร้องพื้นที่ปลอดภัยในสถานที่ศึกษา โรงเรียนควรจะเป็นคือเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับน้กเรียน
ชายเสื้อชมพู แยกเกียกกาย ปรากฏตัว! ยืนยัน ไม่ใช่มือยิงกลุ่มเสื้อเหลือง
นัดรวมตัวใหญ่ที่ อักษะ ! พบม็อบสไตล์งานวัด คนเสื้อแดง ประกาศร่วมด้วย 22 พ.ย.
เมื่อภาพการเรียกร้องดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ประเด็นดังกล่าวเป็นที่ถกเถียงกันในโซเชียลมีเดียเป็นวงกว้าง ผู้ใช้โซเชียลมีเดียกลุ่มหนึ่งได้ตั้งคำถามต่อเธอว่าได้แจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ พร้อมทั้งได้ขุดคุ้ยประวัติและรูปถ่ายส่วนตัวที่แต่งกายเซ็กซี่ของผู้ชุมนุมคนดังกล่าว ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งได้ออกมาปกป้องเธอในฐานะเหยื่อที่ถูกกระทำและชื่นชมในความกล้าที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราว อีกทั้งวิพากษ์วิจารณ์ระบบการศึกษาของไทยที่ยังมีจุดบอดในการจัดการกับการคุกคามในสถานศึกษา
ยืนยัน! นักเรียนเลว ย้ายที่จัดม็อบบ๊ายบายไดโนเสาร์ ถูกต้องตามพ.ร.บ. ชุมนุม
ด้าน ทราย เจริญปุระ นักแสดงผู้สนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยระบุว่า “Don’t Tell Me How To Dress คุณลองมองรูปนี้ให้ดี ๆ มองอากัปกิริยาของผู้หญิงที่อยู่ในภาพให้ละเอียด เธอคนนี้คือคนที่เพิ่งออกมาที่ม็อบวันนี้แล้วถือป้ายบอกว่าเคยถูก “ครู” ทำอนาจารสมัยเรียนมัธยม และมันเกิดขึ้นในโรงเรียน
ถ้าคุณมีความเป็นมนุษย์มากพอจนมองคนอื่นเป็นมนุษย์เหมือนกันกับคุณ คุณจะรู้ว่าไม่มีใครสมควรถูกทำอนาจาร คุณจะรู้ว่าเราทุกคนมีสิทธิในเรือนร่างของตัวเอง ไม่ว่าเขาหรือเธอจะแต่งตัวแบบไหน ไม่ว่าเขาหรือเธอจะแสดงออกทางเพศมากน้อยเพียงใด คุณจะตระหนักดีว่าการแต่งตัวหรือการแสดงออกทางเพศไม่ว่าจะในรูปแบบใด ไม่เท่ากับการอนุญาตให้เขาหรือเธอถูกทำอนาจาร คุณจะมองภาพนี้แล้วพบว่า เหยื่อของการคุกคามทางเพศไม่ใช่วัตถุที่ถูกทำให้ด้อยค่าลงไป เขาหรือเธอยังคงเป็นมนุษย์เฉกเช่นเดียวกับมนุษย์ทุกคน โดยเฉพาะเธอในภาพ ที่ต้องใช้ความกล้าหาญมากพอที่จะเอาชนะวัฒนธรรมของการโทษเหยื่อ และเรียนรู้ที่จะเห็นคุณค่าในร่างกายของตัวเองอีกครั้ง
ถ้าคุณไม่มีความเป็นมนุษย์มากพอจนมักที่จะลดทอนความเป็นมนุษย์ของคนอื่น คุณจะมองภาพนี้แล้วรู้สึกว่า คำพูดของเหยื่อนั้นไร้ความหมาย คุณจะเหยียบย่ำเหยื่อที่ถูกคุกคามทางเพศลงไปอีกด้วยการมองหาข้อผิดพลาดของเขาหรือเธอ คุณมักจะถามว่าตอนที่เกิดเห็นเหยื่อแต่งตัวยังไง ให้ท่าใครหรือเปล่า คุณคิดเสมอว่าการแต่งตัวหรือการแสดงออกทางเพศเป็นต้นเหตุของการทำอนาจาร คุณมักจะเหยียดเหยื่อที่ถูกกระทำอนาจารว่าไม่บริสุทธ์ คุณชอบที่จะละเลยว่าผู้กระทำความผิดคือคนที่ควรถูกกล่าวโทษแต่เพียงผู้เดียว คุณกำลังสนับสนุนให้ผู้กระทำอนาจารและสังคมไม่ต้องเรียนรู้ที่จะรู้จักหักห้ามใจ คุณกลายเป็นผู้ที่ข่มขืนเธออีกรอบในทางความคิด
ลองมองรูปนี้อีกครั้ง ตกลงว่าคุณเห็นเธอเป็นฮีโร่ในเรื่องราวของเธอเอง หรือคุณเห็นเธอเป็นเหยื่อที่สมควรถูกกระทำ ถ้าเป็นอย่างแรก ยินดีด้วย คุณยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ แต่ถ้าเป็นอย่างหลัง เสียใจด้วย คุณแม่xไม่ใช่มนุษย์ คุณมันเหี้x ทุเรศ น่าสะอิดสะเอียน และน่าขยะแขยงสัx ๆ”