สุชัชวีร์ — จากกรณีที่ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตอบโต้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส.พรรครักประเทศไทย ที่โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงการเปิดตัวนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ ว่าที่ผู้สมัครลงรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. พรรคประชาธิปัตย์ ว่านโยบายดีแต่อยู่ผิดพรรค โดยนายราเมศ ระบุว่า ขอให้สู้กันด้วยนโยบายที่สร้างสรรค์ ดีกว่า อย่าโจมตีให้ร้ายกัน ทางที่ดีที่สุดคือผู้ที่ตั้งใจเข้ามาทำหน้าที่แทนชาวกรุงเทพฯ ควรแสดงให้เห็นถึงสาระของนโยบายว่าจะทำสิ่งใดให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2564 นายชูวิทย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้นายราเมศกลับไปว่า“พูดเอง อวยเอง เออเอง แต่โทษคนอื่น”
ผมเห็นด้วยกับคุณราเมศทุกประการ เพราะเคยอยู่ร่วมคณะกรรมาธิการการตำรวจด้วยกัน ตอนผมเป็นรองประธานกรรมาธิการการตำรวจ
เด็กๆ เล่นการเมืองโตไว เผลอแป๊บเดียวเป็นใหญ่เป็นโต ผมจึงเห็นด้วยที่ว่า “อย่าโจมตีใส่ร้ายกัน” แต่เอาจริงๆ ไม่มีใครเขาไปใส่ร้ายเลยสักคน
เรื่องของเรื่อง พี่เอ้ที่รักของผมแกไปพูดเองว่าเป็น “ทายาทคนเดียวในประเทศไทยของสายเลือดไอน์สไตน์” เอาสาระนโยบายแบบที่ชอบพูดดีกว่า อย่าไปเอาเรื่องแบบนี้มาอวด ไร้สาระทั้งนั้น
เมื่อพูดเอง ฝอยเพลินปากไปหน่อย จะไปโทษคนอื่นมันก็ใช่ที่นะครับ ยิ่งมาโทษผม ยิ่งบาปกรรม เพราะผมไม่ได้พูดเรื่องไอน์สไตน์เลย พี่เอ้พูดเหมาเอง เออเอง แล้วก็เชื่อเอง ลึกๆ ผมแอบเชียร์นะเนี่ย เพราะพี่เอ้แกน่ารัก พูดก็เก่ง ยกมือไหว้ก็สวย ความรู้วิชาการก็เยี่ยม ตรงปกคนประชาธิปัตย์เป๊ะๆ
แต่เรื่องการเมืองคงต้องให้พรรคประชาธิปัตย์เทรนมากหน่อย อีกอย่าง ที่คุณราเมศพูดถูก คือ “ให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์ผลงาน” เพราะที่ผ่านๆ มา ผู้ว่าฯ ก็มาจากพรรคประชาธิปัตย์ทั้งน้าน ไม่รู้กี่สมัยแล้ว กรุงเทพฯ ก็ไม่ได้เห็นเปลี่ยนอะไรไปนี่ครับ
หากจะให้คนอื่นที่ไม่ได้มาจากพรรคประชาธิปัตย์ได้ลองทำงานบ้าง ถือว่าเป็นการให้โอกาส อย่าไปเหมาว่าคนจากพรรคประชาธิปัตย์ดีไปเสียหมด
อันนี้ผมพูดจากใจนะครับ พับผ่า ให้ฟ้าผ่าตายสิเอ้า

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง