นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมพร้อมของส.ส.พรรคเพื่อไทยขอเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติตามรธน.มาตรา 152 วันที่ 9-10 ก.ย.ว่า พรรคฝ่ายค้านได้รับเวลาอภิปราย 10 ชั่วโมง และได้จัดสรรให้พรรคร่วมฝ่ายค้านให้อภิปราย พรรคเพื่อไทยได้รับเวลาทั้งสิ้น 310 นาที มีส.ส.อภิปราย 11-12 คน อภิปรายในสาระสำคัญ 3 ประเด็น คือ 1.วิกฤติเศรษฐกิจภาพรวม ซึ่งรัฐบาลล้มเหลวทางด้านแก้ไข รวมถึงมีความเสี่ยงต่อการทุจริตในภาระงานด้านต่าง ๆ 2.ปัญหาระดับเจาะลึก เช่น ปัญหาสินค้าเกษตร แต่ละด้าน และ 3.วิกฤติทางการเมือง
โดยการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน พุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรีโดยตรง ในภาพสรุปของการอภิปราย ฝ่ายค้านจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งนายกฯ เพื่อปลดล็อกปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด อย่างไรก็ตามข้อเสนอดังกล่าวไม่สุดโต่งเกินไป เพราะทำได้ตามรัฐธรรมนูญ เมื่อนายกฯ ลาออก เท่ากับว่าคณะรัฐมนตรีต้องพ้นไปและต้องเลือกนายกฯ และรัฐมนตรีคณะใหม่ ซึ่งกระทำได้ภายใต้การประชุมรัฐสภา มีการเสนอชื่อบุคคลที่อยู่ในบัญชีบุคคลที่พรรคเสนอให้รัฐสภาเลือกเป็นนายกฯ หรือหากไม่มีบุคคลในบัญชีสามารถขอเสียงจากรัฐสภาเพื่องดเว้นได้ ซึ่งไม่เหมือนกับการเคลื่อนไหวนอกสภาฯ
อย่างไรก็ตาม ไม่เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้วิธียุบสภา เพื่อให้เลือกตั้งใหม่ เพราะผลที่ได้ไม่คุ้มกับการเลือกตั้ง เนื่องจากหากเลือกตั้งภายใต้กติกาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจะได้คนเดิมเข้าสู่สภาฯ ส่วนนายกฯจะลาออกตามข้อเสนอหรือไม่นั้นอยู่ที่มโนธรรมของพล.อ.ประยุทธ์ เพราะหากนายกฯ ที่พรรคฝ่ายค้านมองว่าเป็นตัวปัญหา ไม่ลาออก เท่ากับว่าประเทศไม่ปลดล็อกการแก้ปัญหา ส่วนบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นผู้นำการบริหารประเทศคือ คนที่มีความรู้ความสามารถและได้รับการยอมรับในเชิงระบบ รวมถึงมีความเป็นกลาง ทั้งนี้ข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยไม่ใช่การให้เกิดรัฐบาลแห่งชาติ
ติ