กัณวีร์ พรรคเป็นธรรม ถามถึง นายก เศรษฐา จะโปรโมทการท่องเที่ยว แต่ดำเนินคดีคนใส่ชุดมลายู แต่งกายแบบนี้มันไปสั่นคลอนอะไรหรอครับ ?
วันที่ 7 มกราคม 2567 มีรายงานดราม่าเกี่ยวกับ ชุดมลายู โดย นายกัณวีร์ สืบแสง พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยมีการโพสต์รูปภาพ พร้อมระบุข้อความว่า “แค่ใส่ชุดมลายู ก็โดนคดียุยงปลุกปั่น!” เห็นท่านนายกบอกจะโปรโมทการท่องเที่ยว แต่ทำไมพี่น้องจังหวัดชายแดนภาคใต้ของเราถูกปิดกั้นวัฒนธรรมชุมชนครับ?!?? การแต่งกายแบบนี้ มันไปสั่นคลอนอะไรหรอครับ ทำไมถึงมีหมายศาลส่งไปถึงบ้าน

ความมั่นคงของชาติแบบใด ทำไมเปราะบางแบบนี้ พี่น้องจังหวัดชายแดนภาคใต้จะถูกรังแก ปิดกั้นเสรีภาพการแสดงไปถึงไหน วอนรัฐบาลปฏิบัติกับประชาชนให้สมกับเป็นรัฐบาลพลเรือนหน่อยครับ
ปล. ขอให้สัญลักษณ์เครื่องแต่งกายพี่น้องมลายูที่น้องอลาดีให้พี่ยืมเหน็บถ่ายรูป จงเป็นสัญลักษณ์ของเกราะคุ้มครองในการต่อสู้คดีที่ไม่เป็นธรรม
- บุกปล้นบ้านกลางกรุง ขโมยทอง – ไอโฟน ลั่นไกใส่เจ้าบ้านก่อนหลบหนี
- สรุปผลชันสูตรน้องนาย แบบละเอียด ก่อนถูกอำพรางศพยัดตู้เย็น
- ชูวิทย์ขอโทษทนายตั้ม พร้อมถอนฟ้องคดีอาญา และมรรยาททนายความ
ทั้งนี้ จากการสืบค้นข้อมูล พบว่า ชุดมลายู หรือ ชุดบาจูเมอลายู เป็นชุดพื้นเมืองมลายู ที่มีต้นกำเนิดจากราชสำนักมะละกา และสวมใส่กันโดยผู้ชายในประเทศบรูไน, มาเลเซีย, สิงคโปร์, บางส่วนของอินโดนีเซีย (โดยเฉพาะเกาะสุมาตราและเกาะบอร์เนียว), ตอนใต้ของฟิลิปปินส์ และ ภาคใต้ของไทย

โดย ชุดมีความหมายโดยตรงว่า “ชุดมลายู” และแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือ บาจู (เสื้อเชิ้ตแขนยาว) มีส่วนคอเสื้อที่มีชื่อว่า “เจอกักมูซัง” (แปลว่า สายจูงสุนัขจิ้งจอก) ส่วนที่สองคือกางเกงขายาวที่มีชื่อว่า “เซอลัวร์” ทั้งสองส่วนทำมาจากผ้าชนิดเดียวกัน ซึ่งมักเป็นผ้าฝ้าย หรือ ผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมฝ้าย นั่นเอง