ประชาชนปลดแอก – จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกแถลงการณ์ นายกรัฐมนตรี โดยมีใจความสำคัญว่า ให้คนไทยทุกฝ่ายถอยกันคนละก้าว ขอให้ผุ้ชุมนุมเคารพประชาธิปไตยแบบรัฐสภา และพร้อมยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากไม่มีเหตุรุนแรง
นายกฯ วอนทุกฝ่ายถอยคนละก้าว พร้อมยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากไม่มีเหตุรุนแรง
บิ๊กเซอร์ไพรส์ คือ ไปทำเนียบ! ม็อบ 21 ตุลา เคลื่อนจาก อนุสาวรีย์ชัย ไป ทำเนียบรัฐบาล
ล่าสุด คณะประชาชนปลดแอก ได้โต้กลับผ่านเฟซบุ๊ก โดยถอดแถลงการณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ พร้อมโต้กลับด้วยข้อเท็จจริงในอีกมุมมองของผู้ชุมนุมที่ไม่ปรากฏในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ออกไป ระบุว่า
ก้าวไกล ถามจะถอยคนละก้าวได้อย่างไรในเมื่อ ประยุทธ์ ไม่ได้เริ่มต้นจากพูดความจริง
คุณพี่มาจากดาวอะไรค้าาาา!!!…ถึงได้แถลงการณ์อะไรที่บิดเบือนความจริงขนาดนี้!!!
จากสิ่งที่เกิดขึ้นในเมื่อวานนี้ วันที่ 21 ตุลาคม 2563
ตามที่สื่อได้เผยแพร่ถ่ายทอดสดคลิปวิดีโอแถลงการณ์ของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยถ้อยคำแถลงนั้นตรงตามสคริปต์ทุกคำ แต่นั่นก็ไม่ได้ปกปิดการตัดต่อที่พยายามแนบเนียนแต่ไม่เนียน รวมทั้งบางช่วงบางตอนของคำแถลงที่ไม่ได้ตรงต่อสถานการณ์ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
วันนี้ 22 ตุลาคม 2563 ประชาชนปลดแอกจึงขอตอบโต้คำแถลงการณ์ของประยุทธ์ เพื่อสร้างเข้าใจต่อสถานการณ์ให้ตรงกันมากขึ้น.ในขณะที่ประยุทธ์เองมีเวลาอีกตั้ง 3 วันนับจากรัฐประหารเข้ามา เพื่อพิจารณาตัวเองว่าเป็นปัญหาของประเทศในเวลานี้ ต้องลาออก

ประยุทธ์ : ผมต้องปกป้องประเทศจากพลังมืดที่ไม่ว่าจะมาจากที่ไหนก็ตาม ไม่ให้สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยของเรา
FPP : ไม่มีพลังมืดที่ไหนที่สามารถนำพามวลชนได้มากกว่าเจตจำนงค์ของตัวประชาชนเองที่มองเห็นความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลประยุทธ์ ผู้ที่เข้ามาด้วยการรัฐประหารและสืบทอดอำนาจด้วยการบิดเบือนกติกาการเลือกตั้งเอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง ภายใต้รัฐธรรมนูญที่ออกแบบโดยคนของตัวเอง

ประยุทธ์ : ผมต้องบริหารประเทศเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่ขณะเดียวกัน ผมก็ไม่ได้ละเลยที่จะดูแลประชาชนคนอื่นๆ ของประเทศด้วย
FPP : พลเอกประยุทธ์ ไม่สามารถบริหารบ้านเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอ ส่งผลให้ประชาชนหลายคนต้องประสบกับความยากลำบาก ไม่ว่าส่วนใหญ่เหรือส่วนน้อย ก็ไม่สามารถดูเเลได้ ตัวอย่างที่ชัดที่สุดคือการบริหารวิกฤตโควิดที่ผ่านมา

ประยุทธ์ :ผมต้องบริหารประเทศบนพื้นฐานหลักการตามกฏหมาย และตามแนวทางและการตัดสินใจจากรัฐสภา
FPP : คำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายเเรง เเละ พรก.ฉุกเฉิน ไม่ได้มาจากการตัดสินใจของสภาเลย เเละไม่เคยรับฟังความคิดเห็นจากสภา ทั้งยังมีการคุกคามประชาชนอยู่ในหลายครั้งหลายหนโดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน

ประยุทธ์ : วงจรที่เราเคยเห็นกันมาตลอดว่า ไม่ว่าฝ่ายไหนมาเป็นรัฐบาลก็ตาม ก็จะต้องเจอกับม๊อบอีกฝ่ายเสมอ และในที่สุด การบริหารประเทศก็ทำไม่ได้ และประเทศก็ไหลลงไปสู่ทางที่จะนำไปสู่ความวุ่นวายและหายนะ
FPP : เหตุความรุนเเรงที่ผ่านมาไม่เคยเริ่มจากประชาชนเลยสักครั้งเดียว ความรุนเเรงนั้นมาจากเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำเกินกว่าเหตุทั้งสิ้น