แจกเงินเยียวยาช้า วันที่ 3 มิถุนายน 2563 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ประธาน คณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน เปิดเผยว่า กรณี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.กระทรวงแรงงาน ไม่ให้ความสำคัญ ในเรื่องของเงินช่วยเหลือผู้ประกันตนนัก โดยกลับปล่อยให้ล่วงเลยจนเกินเวลาจนโควิดจะหมดแล้ว วันนี้เงินของประชาชนเองที่จ่ายสมทบยังไม่ได้รับการเยียวยาครบ เพราะ รมต.ชี้แจงว่าระบบคอมเก่า ต้องใช้เจ้าหน้าที่เขียนมือนั้น วันพรุ่งนี้ (4 มิ.ย.) เวลา 10.30 น. ตนในฐานะประธานกรรมาธิการกิจศาลอัยการและกองทุนฯ ได้ออกจดหมายเชิญ ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงานและเลขาธิการ กองทุนฯ และผู้แทนภาคประชาชน เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการในประเด็นที่ประชาชนผู้ประกันตนเดือดร้อน และมีความเคลือบแคลงใจว่า จนถึงขณะนี้กว่า 100 วัน ยังไม่ได้รับการเยียวยาอย่างเป็นธรรม ซึ่งหากเบี้ยวไม่มา ถือว่าไม่ให้ความสนใจกับประชาชนผู้ประกันตน
ทั้งนี้ ในส่วนของข้อร้องเรียนและประเด็นที่ต้องชี้แจงมีหลายประเด็น เนื่องจากมีความไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง ตลอด 3 เดือน ที่ประชาชนประสบปัญหาโควิด แต่กลับเกิดความล่าช้า โดยเฉพาะเรื่องการนำเงินไปลงทุนกว่า 2.0 ล้านล้านบาท ของสำนักงานประกันสังคม จนทำให้มีเงินไม่เพียงพอต่อการชดเชยให้กับผู้ประกันตน และยังมีเรื่องไม่ชอบมาพากล ที่คนในกระทรวงแอบกระซิบมาว่า มีไอ้โม่งลูกหลาน พรรคการเมืองดังไปยุ่งเกี่ยวกับโครงการประมูลการจัดทำระบบคอมพิวเตอร์ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ที่เพิ่งยกเลิกไป เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งที่สำนักงานกองทุนสามารถประเมินได้อยู่แล้วว่า ในแต่ละปีจะมีผู้ประกันตนเพิ่มหรือลดลงขนาดไหน แต่เหตุใดจึงไม่มีแผนรองรับจนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมาเขียนในเอกสารด้วยลายมือตนเองเป็นล้านๆ ราย
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า หม่อมเต่าอย่าเอาความเดือดร้อน ความเป็นความตายของประชาชนที่มีทุกวินาทีมาเป็นเรื่องเล่น วันนี้ส่อให้เห็นถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ต่างคนต่างพรรคต่างแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน นี่และคือการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ที่เป่านกหวีดแหกตาประชาชนจนได้รัฐธรรมนูญฉบับ คสช. มา ที่เป็นการเมืองหลายมุ้งแลกผลประโยชน์ ชิงเก้าอี้ ทั้งๆ ที่วันนี้พรรคการเมืองแกนนำรัฐบาลควรสนใจการแก้ปัญหาให้กับประชาชนมากกว่าแย่งเก้าอี้กัน ยิ่งการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในสถานการณ์เช่นนี้ หากรัฐมนตรีแรงงานอยู่ภายใต้รัฐบาลปกติที่ไม่ต้องมีเงื่อนไขต่อรอง ป่านนี้โดนปรับ ครม. ให้กลับไปเลี้ยงหลานนานแล้ว