ก้าวไกล ชี้ รัฐล้มเหลวทำเศรษฐกิจพังรอวันระเบิด จัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้า

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายนโยบาย พรรคก้าวไกล วิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจไทยระบุว่า สถานการณ์ทางการคลังของรัฐบาลในปีนี้เรียกได้ว่าหืดจับแน่นอน เพราะรัฐจะจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายเกือบ 4 แสนล้านบาท จากปกติที่คาดว่าจะเก็บได้ประมาณ 2.75 ล้านล้านบาท ซึ่งแม้ว่าจะเก็บได้ตามเป้าก็ยังต้องกู้เงินมาชดเชยการที่รายจ่ายสูงกว่ารายได้อยู่ดี ซึ่งปีหนึ่งจะอยู่ที่ประมาณเกือบ 5 แสนล้านบาท

ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การจะกู้ได้หรือกู้ไม่ได้จะติดที่ ‘เพดานหนี้’ ที่มีการกำหนดไว้ในกฎหมาย สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ เพดานอ่อน และเพดานแข็ง โดยในส่วนของเพดานอ่อนหรือกรอบอ่อนคือ กรอบวินัยการเงินการคลังที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งเป็นประธานคณะกรรมการอยู่ สามารถแก้ไขกรอบเพดานตรงนี้เองได้ในคณะกรรมการ ซึ่งกำหนดไว้ว่าหนี้สาธารณจะห้ามเกิน 60% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP หากเมื่อใดก็ตามที่เกินตามที่กำหนดไว้ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการสามารถเรียกประชุมและปรับแก้ไขได้เลย เรื่องนี้เคยมีการแก้ไขมาแล้วหลายครั้งในรัฐบาลนี้

สำหรับในส่วนของเพดานแข็ง คือกรอบวินัยการเงินการคลังที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.บริหารหนี้สาธารณะ ที่กำหนดไว้ว่า เงินกู้ชดเชยงบประมาณขาดดุลห้ามเกิน 20% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีทั้งหมดรวมกับ 80% ของการคืนเงินต้นที่ต้องจ่ายคืนหนี้ หากเลยเพดานตรงนี้ไปต้องมีการไปแก้ไขในตัว พ.ร.บ. ดังนั้น ทางเลือกที่จะเกิดขึ้น หากทางรัฐบาลเก็บรายได้ไม่เข้าเป้าและต้องใช้จ่ายเงินเพิ่ม คือ

1.ใช้วงเงินบริหารสภาพคล่องเงินคงคลังที่ให้ไว้ที่ 3% ของงบประมาณรายจ่ายตามกฎหมายซึ่งจะมีมูลค่าราว 90,000 ล้านบาท แต่กู้ได้ไม่เกิน 120 วัน เพื่อนำมาใช้แก้ขัดก่อนได้

2. หากยังไม่พอใช้จ่ายต้องออกเป็น พ.ร.ก.กู้เงิน เหมือนที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์เคยทำมาแล้วคือการออก พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในปี 2563 หรือที่เรียกกันว่า พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้าน แต่รอบนี้จะเป็นการออกเป็น พ.ร.ก.เสริมสภาพคล่อง และในอีกทางเลือกหนึ่งคือการไปแก้ไขใน พ.ร.บ.บริหารหนี้สาธารณะ หากมีการแก้ไขก็ต้องนำมาเข้าสู่กระบวนการของทางรัฐสภา ซึ่งต้องมีการพิจารณาของทางสภาผู้แทนราษฎรอีกว่าจะมีการยอมให้แก้ไขหรือไม่

เหล่านี้เป็นสิ่งที่น่ากังวลของปี 2563 แต่ก็ยังพอเข้าใจได้เพราะเกิดโรคระบาดโควิด-19 กลางปีงบประมาณ เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน แต่เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะรับได้ ถ้าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งในปีงบประมาณปี 2564

นอกจากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เรายังมีปัญหาการเงินการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีกด้วย ตาม พ.ร.บ.ขั้นตอนการกระจายอำนาจ กำหนดว่าต้องแบ่งงบให้ท้องถิ่นขั้นต่ำ 25 % และมีเป้าหมายอยู่ที่ 35 % แต่ปัญหาที่ผ่านมาคือ ส่วนกลางดันสอดไส้โดยการรวมงบฝากไว้ด้วย ทำเหมือนท้องถิ่นเป็นท่อผ่านงบประมาณ เช่น งบสำหรับจ่ายค่าเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ คนพิการ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นในปีนี้คือเงินงบประมาณไม่พอจ่ายค่าเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ-คนพิการ ในช่วงใกล้สิ้นปีงบประมาณ เพราะสำนักงบประมาณไปขอตัดงบประมาณในส่วนนี้ของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) เนื่องจากคิดว่าจะมีการเบิกจ่ายงบประมาณไม่ครบด้วยเหตุผลว่า ในระหว่างปีงบประมาณอาจมีผู้สูงอายุเสียชีวิตระหว่างปี สิ่งที่ต้องตั้งข้อสังเกตคือ ทาง สถ.รู้เรื่องนี้ตั้งแต่ต้นปี แต่ไม่ได้มีการแก้ไขแต่อย่างใด

รวมทั้งในปีนี้ได้มีการเปลี่ยนระบบโดยให้เป็นการโอนตรงจากกรมบัญชีกลางไปเลยแทนที่จะผ่านที่ท้องถิ่น เหตุการณ์เช่นนี้มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นอีกในปีงบประมาณ 2564 แต่โชคดีที่ทางกรรมาธิการงบประมาณได้ไปเพิ่มเงินงบประมาณในส่วนนี้คืนให้แล้ว ในส่วนของเบี้ยผู้สูงอายุและเบี้ยโรคเอดส์

ในฝั่งของรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ส่วนกลางบอกว่าในภาพรวมภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพิ่มขึ้น 4 หมื่นล้านบาท แต่ไม่ได้ไปดูว่าแต่ละ อปท.ได้เพิ่มขึ้นหรือได้ลดลง รวมทั้งยังมีกรณีที่เงินงบประมาณควรจะเข้าไปที่ท้องถิ่นแต่ส่วนกลางไปประกาศ พ.ร.ฎ.ลดภาษีที่ดินลง 90 % โดยข้อเท็จจริงปรากฎว่าส่วนกลางไม่เสียอะไรเลยแต่ได้ยังได้ความดีความชอบจากประชาชน ส่วนคนที่เสียรายได้ในการนำไปพัฒนาพื้นที่ก็คือท้องถิ่น มีการประมาณการกันว่ารวมทุก อปท.จะสูญเสียรายได้ทั้งหมด 34,500 ล้านบาท

โดยที่ส่วนกลางก็ไม่ได้มีการตั้งหางบประมาณมาชดเชยให้ อปท.แต่อย่างใด อีกทั้งได้มีการประกาศว่าให้นำเงินสะสมที่ท้องถิ่นมีนำมาใช้ก่อน ข้อเท็จจริงก็คือการนำเงินสะสมมาใช้ก็มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก และไม่นับว่าบางท้องถิ่นก็ไม่ได้มีเงินสะสมมากพออีกด้วย

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและบางแห่งเกิดขึ้นแล้ว คือ อปท.บางแห่งมีแผนปรับลดเจ้าหน้าที่บุคลากรให้น้อยลงเพราะมีงบประมาณไม่พอจ้างได้และปรับลดงบพัฒนาท้องถิ่นลง จึงอาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาพื้นที่ และลดศักยภาพของท้องถิ่นซึ่งก็จะส่งผลกลับยังประชาชน

ต้องไม่ลืมว่าท้องถิ่นคือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและใกล้ชิดต่อประชาชนมากที่สุด วิธีที่จะแก้ไขปัญหางบประมาณของท้องถิ่นในระยะสั้นคือต้องจัดงบกลางบางส่วนไปช่วยอุดหนุน แต่ในระยะกลางและระยะยาวต้องส่งเสริมและให้อำนาจให้ให้ท้องถิ่นมีการออกภาษีรูปแบบใหม่ ๆ หรือการเก็บภาษีกับห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ ธุรกิจรายใหญ่ในท้องถิ่น ซึ่งก็เคยมีฐานข้อมูลสมัยเก็บภาษีโรงเรือนอยู่แล้วแต่พอเป็นการเก็บเป็นภาษีที่ดินกลับเก็บภาษีไม่ค่อยได้

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

ที่นี่บราซิล! หญิงพาศพคุณลุงนั่งวีลแชร์ เข้าธนาคาร ไปกู้เงินแสน

อลหม่าน! สาวบราซิลพาศพลุงนั่งวีลแชร์ เข็นเข้าธนาคาร หวังเซ็นกู้เงินแสน เจ้าหน้าที่ จับโป๊ะ! ถูกรวบทันควัน อึ้งเสียชีวิตมาแล้วกว่า 3 ชั่วโมง

ปชช.เดือดร้อนหนัก! ป้ายรถเมล์ไม่อัปเดตข้อมูล สุดท้ายต้องเขียนกันเอาเอง

เดือดร้อนมาก! โซเชียลแห่แชร์ ภาพป้ายรถเมล์ที่ไม่อัปเดตสายรถเมล์ จนประชาชนต้องเขียนกันเอง ล่าสุด “สุริยะ” สั่งเร่ง อัปเดตข้อมูล

คิดจะต่อเติมระบียงบ้าน จุดไหนที่ต้องระวังก่อนสร้าง – มาดามฮวงจุ้ย

อ.นภัสวรรณ จิรเจริญเวศน์ เจ้าของเพจ มาดามฮวงจุ้ย ชี้ชัดทุกปัญหาพลิกชะตาด้วยฮวงจุ้ย เผย ฮวงจุ้ยระเบียงบ้าน จุดไหนควรมี จุดไหนไม่ควรสร้าง

จับตา! ‘อินโด’ เร่งอพยพ ปชช.นับหมื่น หลังภูเขาไฟ ‘รูอัง’ ปะทุ หวั่นสึนามิถล่ม

ระทึก! ทีมกู้ภัยอินโดนีเซียเร่งอพยพ ประชาชนนับหมื่นชีวิตออกจากพื้นที่เสี่ยง หลังภูเขาไฟ ‘รูอัง’ ปะทุครั้งใหญ่ หวั่นสึนามิซัด

ฟาดเคราะห์แทนผู้ใหญ่! เด็ก10 ขวบ โดนยิงจากในป่า เผยปมเหตุสุดอนาถ

ล่ามือปืน! ลากลูกซองซุ่มยิงจากในป่าข้างขนำ กระสุนเข้าท้ายทอยเด็ก 10 ขวบ ก่อนหลบหนี คาดปม ปัญหาที่ดิน หลังพ่อแม่ไปเรียกร้องขอที่ดินทำกิน

“หมอช้าง” เตือน! 2 ราศี มีปัญหาสุขภาพ ต้องหมั่นดูแลเป็นพิเศษ

หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา เผย ดวงเมษายน 2567 : 2 ราศี ต้องระวัง! ชีวิตกำลังจะเจออุปสรรคทางสุขภาพร่างกาย
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า