พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ “ปิดแอป-งดรับงาน กลุ่มคนขับ แกร็บ รวมตัวกันร้องเรียกปรับปรุงคุณภาพชีวิตการทำงานที่มากขึ้น” โดยระบุข้อความเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2563 ว่า
ชี้แจงข้อเท็จจริง! ม.ธรรมศาสตร์ แถลงการณ์กรณีจัด ชุมนุมธรรมศาสตร์
“ช่วงสายๆ ของเมื่อวานนี้ ณ อาคารธนภูมิ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ คนขับแกร็บหลายร้อยชีวิตรวมตัวเสนอข้อเรียกร้องเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตในการทำงานใน 3 ประเด็นหลักได้แก่ ปัญหาค่าแรง ปัญหากฎเกณฑ์ข้อบังคับที่ไม่เป็นธรรม และปัญหาการคุ้มครองประกันภัยในการทำงาน พร้อมขอให้ตัวแทนระดับสูงลงมารับเรื่องราวร้องเรียนเพื่อแสดงถึงความจริงใจในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ปัจจุบันธุรกิจแพลตฟอร์มกลายเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมและมีบทบาทมากขึ้นในสังคม ‘อาชีพคนขับแกร็บ’ กลายเป็นอาชีพทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการงาน ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอยของไทย การ ‘หางาน’ หรือ ‘ได้งาน’ ที่สามารถเลี้ยงชีพตนเองได้เป็นเรื่องยากกว่าที่เคย อาชีพขับแกร็บจึงกลายเป็นอาชีพในฝันสำหรับการตั้งต้นชีวิตใหม่ อีกทั้งยังเป็นอาชีพที่รองรับแรงกระแทกทางเศรษฐกิจหลังภาวะตกงานในช่วงวิกฤตโควิดของใครหลายๆ คน
แม้จะฟังดูน่าสนใจ แต่ปัญหาในการทำงานและคุณภาพชีวิตของคนขับแกร็บกลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่หลายๆ คนคิด เมื่อพวกเขาเข้าสู่การทำงาน ปัญหาต่างๆ เริ่มมีให้เห็น ข้อจำกัดยิบย่อยไม่ว่าจะเป็น รายได้ที่ถูกหักซ้ำซ้อน รายได้ไม่สอดคล้องกับระยะทางที่วิ่งรอบ ค่าเสียโอกาสจากการรออาหารเป็นเวลานาน โดยไม่มีการชดเชยให้เมื่อคนขับต้องเสียโอกาสในการรับงานมากขึ้น การแบ่งเขตพื้นที่ในการรับงานที่ทำให้คนขับต้องตีรถเปล่า และสูญเสียรายได้จากการวิ่งรอบไกลๆ การถูกแบนให้งดรับงานเพียงเพราะแจ้งปัญหาหน้างาน อีกทั้งบริษัทยังได้ออกกฎให้คนขับซื้อกระเป๋าและเสื้อแจ็คเก็ตของบริษัทเพื่อภาพลักษณ์และเป็นการประชาสัมพันธ์ไปในตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนขับแกร็บประเภทรถรับจ้าง พวกเขามีความเสี่ยงที่จะขัดแย้งกับผู้ให้บริการในท้องถิ่น และเรื่องสุดท้ายคือการประกันอุบัติในการทำงาน
เพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย เชิญชวน ประชาชนประกาศเอกราช-อิสรภาพ เพื่อรธน. ฉบับในฝัน
“ขับรถล้ม เขาก็ไม่มีประกันให้หรอก เขาไม่รับผิดชอบ” คนขับแกร็บรายหนึ่งเผยให้เราฟังถึงปัญหาที่เกิดจากการทำงาน พร้อมยกตัวอย่าง กรณีนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นปี เมื่อคนขับแกร็บรายหนึ่งประสบอุบัติเหตุและถูกชนกระเด็นตกสะพานพระราม 9 พิการและความจำเสื่อม แต่ไม่ได้รับการดูแลหรือเยียวยาใดๆ
ปัญหาเรื่องรายได้ของการวิ่งงานเป็นรอบจากเดิมอยู่ที่รอบละ 60 บาท โดยประมาณ ปัจจุบันปรับลดลงมาเรื่อยๆ น้อยที่สุดที่คนขับแกร็บแจ้งให้เราฟังคือ 15 บาท หรือในต่างจังหวัด ราคาก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งผู้ขับแกร็บที่มาร่วมงานวันนี้แจ้งกับเราว่า “ที่เราเรียกร้อง เราอยู่กรุงเทพเรายังอยู่กันยาก แล้วคนที่ต่างจังหวัดได้น้อยกว่านี้อีก” หรือมีการออกกฎให้เก็บเพชร 150 เม็ด 1 เม็ดเท่ากับ 20-30 สตางค์โดยประมาณเพื่อเปลี่ยนเป็นโบนัสในการทำงาน ทำให้พวกเขาต้องวิ่งรถหลายรอบมากขึ้นเพื่อเอาเพชรไปแลกเงิน พวกเขาต้องทำงานแข่งกับเวลา แย่งกันรับงาน คุณภาพชีวิตในการทำงานก็ลดต่ำลง แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือ ‘ความเสี่ยง’
หมอวรงค์ ชี้การชุมนุม ธรรมศาสตร์จะไม่ทน เอาข้อเรียกร้องประชาธิปไตยมาบังหน้า
หลังจากรวมตัวและมีข้อเรียกร้องนำโดยกลุ่ม Grab เคลื่อนที่เร็วเราช่วยกัน ทางผู้บริหารบริษัทแจ้งว่าจะใช้เวลาพิจารณาข้อเรียกร้องของคนขับแกร็บ พร้อมรับปากว่าอีก 7 วันจะให้คำตอบที่ชัดเจน นอกจากนี้ทางบริษัทได้ออกเอกสารชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า จะมีการยกเลิกการแบ่งเขตที่เป็นปัญหาต่อการรับงานและเพิ่มทางเลือกในการซื้อ/ไม่ซื้อ กระเป๋าแกร็บ และได้จัดทำประกันอุบัติเหตุให้สำหรับทุกคน
การรวมตัววันนี้ของคนขับแกร็บไม่ใช่ครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา กลุ่มแกร็บฟู๊ดพัทยากว่า 100 ชีวิต ได้รวมตัวกันประท้วงหยุดวิ่งเพื่อขอให้มีการขึ้นค่ารอบ พร้อมทั้งขอให้บริษัทจัดทำประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ และสิทธิในการกู้เงิน
ปัญหาของคนขับแกร็บซับซ้อนกว่าที่คิด ในการทำงานของพวกเขามีสถานภาพก่ำกึ่งระหว่างการเป็นฟรีแลนซ์และพนักงานบริษัท อีกทั้งธุรกิจแพลตฟอร์มอาศัยช่องว่างในการนิยามคำว่า ‘ลูกจ้าง’ และ ‘การจ้างงาน’ ต่างออกไปจากอดีต ทำให้คนขับแกร็บไม่ใช่ลูกจ้างในทางเทคนิคกฎหมาย ส่งผลให้พวกเขาไม่มีเงินประกันสังคม ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ใดๆ เทียบเท่าคนทำงานอื่นๆ หรือแม้กระทั่งความมั่นคงในการทำงานที่มากพอจะเป็นเครดิตในการกู้เงินซื้อบ้าน ซื้อรถ คนขับแกร็บ จึงมีสถานะไม่ต่างอะไรกับ ‘แรงงานเสี่ยง’ ที่ทำงานอยู่นอกระบบ และต้องเสี่ยงกับการทำงานในประเทศที่มีอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงติดอันดับโลก
การทำงานของคนขับแกร็บในฐานะคนทำงานจึงต้องถูกนำมาพูดคุย ยกระดับ และสร้างบรรทัดฐานใหม่ขึ้น เพราะงานเติบโตคนทำงานยิ่งต้องเติบโตกว่า และเราจะไม่ทิ้งคนทำงานกลุ่มใดไว้ข้างหลัง”.