นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือ ครูหยุย สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) เปิดเผยว่า ขอบคุณประธานวุฒิสภาและเพื่อน ๆ สมาชิกที่ไว้วางใจ มอบหมายให้ตนเข้าไปเป็นหนึ่งใน 21 คนในคณะกรรมการสมานฉันท์ ซึ่งเป็นงานที่สำคัญ งานที่หลายคนคาดหวังว่าจะเป็นทางออกหนึ่งของประเทศ
แต่ถ้าจะให้พูดถึงความคิดที่มีอยู่ เบื้องต้นตนมีความหวัง เพราะเพียงแต่มีการเริ่มต้นให้มี ก็ถือว่าเกิดประกายแสงแล้ว ต่อมามีตัวตนจากหลายภาคส่วนเป็นกรรมการเข้ามา ก็ว่าความหวังเริ่มลุกโชนขึ้น แม้จะมีบางส่วนยังไม่เข้าร่วม หรือไม่เข้าร่วม เป็นธรรมดาที่ต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น กลไกสำคัญนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของความปรองดอง เป็นเวทีหารือไปสู่ความสมานฉันท์สมัครสมานสามัคคี จากนั้นคงต้องกระจายการมีส่วนร่วมออกไปให้กว้างขวาง
นายวัลลภ เผยอีกว่า สรุปในเบื้องต้น คือ 1.กรรมการสมานฉันท์ เป็นแกนกลางที่ต้องเปิดกว้างให้ “ความคิดเห็น” ต่าง ๆ ไหลเข้ามา โดยมีศูนย์รับข้อเสนอแนะมาสู่กรรมการ และต้องมี “ตัวตนของคนกลุ่มต่างๆ” ออกไปร่วมกัน “เปิดเวทีความคิด” รับฟังข้อคิดเห็นอย่างกว้างขวาง นั่นคือทั้งตั้งรับและทั้งรุก
2.ข้อคิดเห็นใดที่เห็นว่าสำคัญและคลี่คลายความขัดแย้งลงได้ คงต้องเร่งนำเข้าหารือในคณะกรรมการ และเสนอแนะออกไปเพื่อให้เกิดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น โทษทางการเมืองที่มาจากเห็นต่าง น่าจะละเลิกลงได้ ทั้งนี้ไม่ได้ไกลไปถึงไม่เอาผิดโทษร้ายแรง หรือการเยียวยาเพื่อลดความคับข้องใจลงของผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ไม่ใช่รั้งรอให้ทุกอย่างลงตัวหมด ซึ่งจะใช้เวลาเนิ่นนานเกินไป
3.สำหรับในเรื่องที่ต้องใช้เวลา เช่น การทบทวนกระบวนการยุติธรรม ที่บางฝ่ายยังข้องใจในมาตรฐานที่ได้รับไม่เท่าเทียมกัน ก็ต้องมีข้อเสนอที่คลี่คลายลง
“เหล่านี้คือความคิดเห็นเบื้องต้นที่ผมมีอยู่ครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงต้องปรับให้รับได้กับแนวความคิดอื่น ๆ ด้วยในโอกาสต่อ ๆ ไป” นายวัลลภ ระบุ
ลุงตู่ บอกอยากเห็นประเทศเดินหน้า! หวังสร้างสมดุลให้อยู่ร่วมกัน โดยไร้ความวุ่นวาย!
ธนกร เตือนอนุสรณ์ หัดเล่นการเมืองแบบสร้างสรรค์ หยุดใช้โควิดโจมตีนายกฯ