ฉีดฮอร์โมน — น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กรุเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญศึกษาแนวทางป้องกันและแก้ปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ กล่าวถึงรายงานของ กมธ.ฯที่รายงานต่อสภาฯไปเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ว่า จากข้อเสนอให้มีการฉีดอวัยยะเพศ ผู้ที่กระทำความผิดคดีข่มขืน ด้วยการฉีดฮอร์โมนให้ฝ่อ โดยระบุว่าไม่ได้เป็นการฉีดถาวร แต่มีระยะเวลาที่ต้องฉีดทุก 3 เดือน ซึ่งในประเด็นนี้จะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะเป็นการให้รับโทษ หรือบำบัด และหาวิธีการรักษาอื่นในระยะยาว โดยจะเป็นการฉีดหลังพ้นโทษออกมา เช่น กรณีคนพ้นโทษออกมาแล้วกลับมาทำผิดซ้ำอีก
ทั้งนี้ ทางกมธ.ไม่ได้เสนอให้ฉีดเพื่อลดฮอร์โมนอย่างเดียว ผู้ที่ทำผิดในคดีข่มขืนกระทำชำเราจะต้องลงทะเบียนติดตามความผิด เพื่อติดตามดูผลเพิ่มเติม แต่ก็ต้องดูในเรื่องของสิทธิมนุษยชนควบคู่ไปด้วย
ส่วนประเด็นเรื่อง1.การเก็บดีเอ็นเอของผู้กระทำความผิด 2. การลงทะเบียนผู้กระทำความผิด และ3.การใช้ฮอร์โมน เป็นสิ่งที่ต้องศึกษามากกว่านี้ และแต่ละกระทรวงควรนำข้อสังเกตุเหล่านี้ไปเป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษาต่อไป
ขณะที่ผู้หญิงที่กระทำผิดในคดีข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศ และผู้ที่ก่อเหตุข่มขืนศพจะต้องถูกฉีดลดฮอร์โมด้วยหรือมั้น นน.ส.พัชรินทร์ เปิดเผยว่ายังไม่มีการศึกษาในประเด็นนี้