ขึ้นภาษีบุหรี่ : วันที่ 6 กรกฎาคม 2563 กรมสรรพสามิต รายงานว่า ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวงเพื่อให้มีการยกเว้นการเก็บภาษีธุรกิจสถานบริการที่อยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิต เช่น ธุรกิจกลางคืน ผับ บาร์ ร้านอาหารจำหน่ายสุรา อาบอบนวด สนามม้า สนามกอล์ฟ เป็นต้น ซึ่งเป็นมาตรการทางภาษีสรรพสามิต เพื่อฟื้นฟูภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) ตามมติคณะรัฐมนตรี ก่อนหน้านี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยอยู่ระหว่างเสนอให้ นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง ลงนาม และหลังจากนั้นคาดว่าจะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาได้ภายในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ สำหรับร่างกฎกระทรวงให้มีการยกเว้นการเก็บภาษีธุรกิจสถานบริการที่อยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิต มีทั้งสิ้น 5 ฉบับ ได้แก่ 1. ร่างกฎกระทรวงให้มีการเลื่อนการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตยาสูบ ที่จากเดิมจะปรับขึ้นจาก 20% เป็น 40% ในวันที่ 1 ต.ค. 2563 โดยให้เลื่อนออกไปอีก 1 ปี เป็นวันที่ 1ต.ค. 2564 เพื่อลดผลกระทบของผู้ประกอบการทั้งในประเทศและผู้นำเข้าบุหรี่จากต่างประเทศ รวมถึงเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบด้วย
2.ร่างกฎกระทรวงยกเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิตที่เกี่ยวข้องกับสถานบริการ อาทิ ผับ บาร์ อาบอบนวด สนามกอล์ฟ สนามม้า และบริการอื่น ๆ ที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต โดยจะได้รับการยกเว้นภาษีเป็นระยะเวลา 1 ปี แต่มีเงื่อนไขว่าผู้ประกอบการจะต้องจ้างพนักงาน หรือไม่มีการเลิกจ้างพนักงานมาก่อนนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2563 เพื่อเป็นไปตามนโยบายของรัฐ 3. ร่างกฎกระทรวงให้มีการลดภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มนวัตกรรมที่มีส่วนผสมของน้ำผัก และผลไม้ ไม่ต่ำกว่า10% โดยให้เสียภาษีในอัตรา 3 % เท่าเดิม
- ร่างกฎกระทรวงให้มีการปรับลดภาษีรถสามล้อไฟฟ้า (ตุ๊กตุ๊กอีวี) ลงเหลือ 2 % เพื่อลดภาระให้ผู้ประกอบการ และส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือก 5. ร่างกฎกระทรวงให้มีการขยายเวลาการชำระภาษีให้กับสินค้าทุกชนิดที่อยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิตที่เก็บอยู่ในคลังสินค้าสนามบิน โดยให้สามารถยืดเวลาการชำระภาษีออกไปได้ จากเดิมที่กำหนดไว้ 7-15 วัน และขยายเวลาการจัดเก็บสินค้าได้เป็นเวลา 120 วัน จากเดิมที่ 60 วัน เนื่องจากที่ผ่านมาหลายสนามบินต้องหยุดให้บริการเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดยในรายงานระบุอีกว่า การลดภาษีสรรพสามิตเป็นการลดภาษีชุดใหญ่ เพื่อช่วยผู้ประกอบการทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่ใช่แต่เฉพาะสินค้าที่เป็นสินค้าบาปเท่านั้น โดยร่างกฎกระทรวงทั้งหมดจะมีผลบังคับใช้เร็ว ๆ นี้ และจะมีประกาศของกรมสรรพสามิตตามออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการทุกกลุ่ม