วันที่ 9 ตุลาคม 2563 ผศ.ดร. อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่ทวิตเตอร์ รายงานถึงเรื่องปฏิบัติการข่าวสารหรือไอโอของรัฐบาลและกองทัพ ซึ่งประเทศไทย เป็น 1 ใน 5 ประเทศที่มีการตรวจพบปฏิบัติการไอโอ (information operations) จำนวน 1,594 บัญชี โดยมี 926 บัญชีในไทยที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกองทัพบกไทยและรัฐบาล โดยมีพฤติกรรมมุ่งโจมตีฝั่งตรงข้ามทางการเมืองและประชาชนที่มีความเห็นต่าง เป็นสิ่งที่ตอกย้ำอย่างชัดเจนว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้กองทัพ เป็นเครื่องมือบิดเบือนข้อเท็จจริงทำสังคมเกิดความแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เกิดความเข้าใจที่ผิดในหมู่ประชาชนและคนรุ่นใหม่ จนลุกลามไปสู่ความเกลียดชังบุคคลและองค์กรต่างๆ
เปิดอันดับ แอคเคาท์นักการเมืองที่ ไอโอ ก่อกวนบ่อย ก้าวไกล-ก้าวหน้า กวาดเรียบ
กองทัพบก ออกโรงชี้แจงปมเครือข่าย ไอโอทหาร หลังถูกทวิตเตอร์กล่าวหา ยืนยันไม่มีจริง
ผศ.ดร.อรุณี กล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นได้สะท้อนถึงการคุกคามของรัฐบาลที่มีต่อประชาชน ทั้งในเชิงพฤติกรรมที่แสดงออกและในเชิงความคิด “เผด็จการซ่อนรูป” ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เปิดเผยตัวตน การอ้างเรื่องรัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งใช้ไม่ได้อีกต่อไป ถ้ารัฐบาลและกองทัพมองมองประชาชนเป็นศัตรู ปฎิบัติการไอโอคือ เครื่องมือสร้างความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้เกิดความหวาดระแวงและความไม่เชื่อใจในหมู่ประชาชนเพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลและกองทัพทำแบบนี้มีจุดประสงค์อะไร เพราะประชาชนไม่ได้ประโยชน์ใดเลย นอกจากรักษาอำนาจรัฐบาลและกองทัพ คือ คำพูดสวยหรูที่รัฐบาลและกองทัพปั้นแต่ง ถูกพิสูจน์ด้วยข้อเท็จจริงประจักษ์ว่ารัฐบาลสร้างความแตกแยกมากกว่าสร้างความสามัคคี ไม่มีความชอบธรรมและไม่ควรได้รับความไว้วางใดๆ จากประชาชนภายในประเทศและในประชาคมโลก
เดือด! วิโรจน์ ซัด เครือข่าย ไอโอ ปลุกปั่นชังชาติ ควรโดน ม.116 กว่านักศึกษา
ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลต้องทำ คือควรชี้แจงและนำข้อมูลมาเปิดเผย ถ้าต้องการเรียกความไว้วางใจของประชาชนกลับมา แต่หากรัฐบาลไม่ดำเนินการและไม่มีข้อเท็จจริงที่มาหักล้าง ก็คงเป็นเครื่องยืนยันได้แล้วว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรัฐบาลที่มีที่มาจากอำนาจเผด็จการ
