นาย จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงการชุมนุมของนักศึกษา เยาวชนปลดแอก และสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวานนี้ (18 ก.ค.63) ว่า การต่อสู้การแสดงออกของคนหนุ่มสาวของประเทศที่มีอนาคต ผู้มีอำนาจต้องมองว่าเป็นภาวะการณ์ปกติ แต่หากมองเป็นภัยคุกคามที่จะต้องกำจัด จะทำให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลายในท้ายที่สุด อีกทั้งพ่อแม่ของนักศึกษาทนไม่ได้ก็จะออกมา
อีกทั้ง ต้องเตรียมความพร้อมในการชุมนุมให้ครบ ทั้งอุปกรณ์เครื่องเสียง และระบบการจัดการ์ดรักษาความปลอดภัยในการปกป้องและลดความสูญเสียในการชุมนุม เพราะเหตุการณ์ชุลมุนที่เกิดจากการกรูเข้าไปนั้นสามารถเกิดได้ตลอดเวลา
รวมภาพบรรยากาศการชุมนุมนักศึกษาของกลุ่ม เยาวชนปลดแอก ที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย
จตุพรกล่าวว่า “ข้อเรียกร้องของบรรดาคนหนุ่มสาว 3 ข้อนั้น ก็ต้องยึดกุมให้แข็งแรงและที่สำคัญต้องไม่ไปก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะจะทำให้เป็นจุดอ่อนโดยฉับพลัน”
“ทั้ง 3 ข้อเรียกร้องนั้นเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญทั้งการเรียกร้องให้ยุบสภา การเรียกร้องไม่ให้มีการคุกคามบุคคลที่มีความเห็นต่างและเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากขีดเส้นใต้ไว้ 3 ข้อนี้เชื่อว่าสถานการณ์จะสามารถเดินได้ตามปกติ บทเรียนการชุมนุมแต่ละครั้ง ซึ่งไม่ได้บอกว่าคนรุ่นไหนจะเก่งกว่าคุณรุ่นไหน ดังนั้นปรากฏการณ์เมื่อวานนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นอีกครั้ง”
จตุพร ยังกล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับการยุติการชุมนุมตอนเที่ยงคืน เพราะหากไม่พร้อมก็อย่าชุมนุมข้ามคืน ควรรักษาระดับความสำเร็จไว้ เมื่อไม่พร้อมก็ต้องปรับเปลี่ยนสถานการณ์ จึงถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด เพราะทั้งคนจัดและคนที่มาร่วมชุมนุมไม่ได้เตรียมตัว และในทางปฏิบัติสถานที่ก็ขาดความพร้อมในการชุมนุมอย่างยืดเยื้อได้ รวมถึงก็ไม่ได้มีการเตรียมการจุดดูแลการรักษาความปลอดภัย ฉะนั้นในสถานการณ์ที่มีความเปราะบางเช่นนี้ ทุกฝ่ายจะต้องใช้ความอดทนอย่างเต็มที่
เข้าใจผิด! ผู้ชุมนุม ปะทะวุ่น นักศึกษาชุมนุม คิดว่า ตำรวจนอกเครื่องแบบ
เยาวชนปลดแอก สลายตัวกลางดึก เกรงไม่ปลอดภัย ให้เวลารัฐบาล 2 สัปดาห์ ก่อนชุมนุมใหญ่
ทั้งนี้ หากมองถึงว่าความแข็งแรงของกระบวนการนักศึกษานั้นคือความเป็นอิสระ ตนมองว่ากระบวนการที่เกี่ยวข้องทางการเมือง อย่างนปช. และบรรดานักการเมืองพรรคการเมืองจะต้องเว้นระยะห่าง เพราะหากเข้าไปใกล้เมื่อไหร่จะเป็นเหตุให้การต่อสู้ของนิสิตนักศึกษา มีสภาพที่ไม่แข็งแรง เพราะพลังบริสุทธิ์จะเป็นภูมิต้านทานที่ดีที่สุด
ท้ายนี้ นายจตุพรกล่าว “การต่อสู้ทางการเมืองต่อไปนี้ไม่ควรจะมีการบาดเจ็บล้มตายหรือต้องสูญสิ้นอิสรภาพ และเห็นว่าการต่อสู้ของประชาชนนิสิตนักศึกษานั้นเป็นหน้าที่ปกติของคนที่เกิดภายในประเทศนี้”