อดิศร เพื่อไทย โว! พรรคร่วมปึ้ก เชื่อ พ.ร.บ.กู้เงิน โหวตผ่านแน่

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 นายอดิศร เพียงเกษ สส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมออกร่างพระราชบัญญัติ หรือ พ.ร.บ.กู้เงิน ในวงเงิน 500,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการ เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ว่า ขณะนี้ รัฐบาลได้ให้ฝ่ายกฎหมาย อย่างสำนักงานกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการพิจารณารายละเอียดต่างๆ เพื่อความรอบครอบในการออก พ.ร.บ.กู้เงิน อยู่

ดังนั้น คาดว่าจะใช้เวลาสักพักก่อนจะเสนอให้ “สภาผู้แทนราษฎร” พิจารณาต่อไป เนื่องจากต้องทำประเด็นที่เป็นข้อสงสัยต่างๆ ให้กระจ่างก่อน หากรัฐบาลพร้อม จะถูกบรรจุให้เป็นเรื่องด่วนที่พิจารณาเป็นอันดับแรก สำหรับกรอบการพิจารณาวาระแรกนั้น เบื้องต้นอาจจะใช้เวลา 1 ถึง 2 วัน ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของวิปรัฐบาล และต้องมีเวลาเพียงพอที่ให้ฝ่ายตรวจสอบได้ซักถามและรัฐบาลได้ชี้แจง เมื่อวาระแรกผ่านไปแล้วก็จะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปคือการตั้งคณะกรรมาธิการ ส่วนจะใช้เวลาพิจารณากี่วันนั้น ตามปกติของการพิจารณาร่างพ.ร.บ. จะอยู่ที่ประมาณ 30 – 90 วัน

• ทำความรู้จัก ประเทศนิการากัว ดินแดนแห่งทะเลสาบและภูเขาไฟ
  
  
• เศรษฐา ร่วมยินดี แอนโทเนีย โพซิ้ว คว้าที่ 2 เวที Miss Universe 2023
  
  
• มะลาละห์ ยูซัฟซัย คือใคร ? บุคคลที่ แอนโทเนีย โพซิ้ว เลือกที่อยากเป็น

ขั้นตอนต่อไป หลังจาก กมธ.พิจารณาแล้วเสร็จ ก็จะนำกลับมาให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาอีกครั้ง ในวาระครั้งที่ 2 และ วาระครั้งที่ 3 ว่าให้ความเห็นชอบหรือไม่ เบื้องต้น ส่วนตัวมั่นใจในความมั่นคงของพรรคร่วมรัฐบาล ที่เป็นเสียงข้างมากว่าจะโหวตเห็นชอบ และเมื่อสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบแล้ว ก็ต้องส่งไปยังวุฒิสภา เพื่อทำการพิจารณาต่อไป ส่วนประเด็นที่ สว.บางคนกังวลต่อการออกร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว จะขัดต่อกฎหมายวินัยการเงินการคลังหรือรัฐธรรมนูญนั้น ตนเชื่อว่าจะสามารถทำให้คลายกังวลได้ตั้งแต่ชั้นพิจารณาของสภาฯ แล้ว และการพิจารณาของสว.นั้นจะไม่ใช้เวลานานไปกว่าที่สภาฯ พิจารณา แต่หากท้ายสุดสว.ไม่เห็นชอบ ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการของสภาฯ ที่จะยืนยันต่อไป

ทั้งนี้ “เป็นสิทธิที่จะมีผู้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตรวจสอบได้ เพื่อความละเอียดรอบคอบ แม้กฎหมายจะออกมาช้า ตนเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลแน่นอน แม้ช่วงนี้จะมีผู้แสดงความเห็นคัดค้าน แต่เชื่อว่าท้ายที่สุดจะเป็นที่ยอมรับร่วมกันได้ เหมือนปี 2544 ช่วงที่จะมีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค แม้ในสภาฯ จะโต้เถียงอย่างหนัก แต่สุดท้ายโครงการดังกล่าวก็สามารถเกิดขึ้นได้และใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้” นายอดิศร กล่าว