กรณี ม็อบปะทะ แยกเกียกกาย เวลา 23.00 น. วานนี้ (17 พ.ย. 63) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. กับ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(รองโฆษก ตร.) แถลงสรุปลำดับเหตุการณ์และแนวทางการปฏิบัติของตำรวจต่อการชุมนุมของมวลชนเสื้อเหลืองและกลุ่มราษฎรที่รัฐสภา เกียกกาย
โจชัว หว่อง ไม่ทน! ประณามตร.ไทยฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ไร้อาวุธ
พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยว่า วันนี้มีการชุมนุม 4 กลุ่ม มี 3 กลุ่มแจ้งการชุมนุม มีกลุ่มเดียวที่ไม่แจ้งการชุมนุม และกลุ่มนี้พยายามฝ่าแนวกั้นตำรวจหน้าประตูทางเข้ารัฐสภา ถนนสามเสน ตำรวจจึงประสานและเจรจาต่อรองกับแกนนำเนื่องจากเป็นพื้นที่ควบคุมเกินกว่าระยะ 50 เมตรตามกฎหมาย สุดท้ายเจรจาไม่เป็นผล มวลชนฝ่าแนวกั้นเข้ามา จนเวลา 14.17 น.ตำรวจจึงเริ่มใช้รถฉีดน้ำทั้งน้ำเปล่า น้ำผสมก๊าซน้ำตาสลับการเจรจาหลายครั้งเพื่อสั่งห้ามเข้าพื้นที่หรือทำลายสิ่งกีดกั้น มีการเผชิญหน้าเป็นระยะๆ
ทั้งนี้ เหตุที่แยกเกียกกายในเวลาใกล้เคียงกัน ตำรวจได้ประกาศผ่านรถขยายเสียงแล้วไม่เป็นผล ผู้ชุมนุมฝ่าแนวกั้นตำรวจ กระทั่งเวลา 15.13 น.ตำรวจจึงใช้รถฉีดน้ำยับยั้บไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าพื้นที่ควบคุม ก่อนจะเจรจาต่อรอง
ส่วนเวลา 17.10 น.เกิดเหตุปะทะระหว่างมวลชนสองกลุ่มที่แยกเกียกกาย ซึ่งตำรวจได้ถอยร่นออกมา ก่อนเกิดการเผชิญหน้ากับมวลชนที่ประตูทางเข้ารัฐสภาเป็นระยะ จนเวลา 21.00 น. มวลชนกลุ่มราษฎรประกาศยุติการชุมนุม
สำหรับรายงานตัวเลขผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ชุมนุมในครั้งนี้ของศูนเอราวัณ เวลา 23.00 น. มียอดล่าสุดที่ รพ.วชิรพยาบาล 37 คน รพ.รามาฯ 1 คน รพ.พระรามเก้า 2 คน รพ.เพชรเวช 1 คน รวม 41ราย
ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ตำรวจขอยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่วันนี้เป็นไปตามขั้นตอนและกฎหมาย ตั้งแต่การเตือนผู้ชุมนุมผ่านแกนนำและสื่อมวลชน พอเกิดการชุมนุมก็ตั้งแนวตามระยะทางการเดินของผู้ชุมนุม แต่มีการฝ่าแนวกั้น รื้อถอนทำลายรั้วหนามและแบริเออร์เข้าเขต 50 เมตรของรัฐสภา มีการใช้กำลังประทุษร้ายต่อตำรวจ มีผู้ปาพลุควัน พลุไฟเข้ามา จึงต้องฉีดน้ำเตือนตามมาตรการกฎหมาย แต่ผู้ชุมนุมไม่หยุดการกระทำ ตำรวจจึงใช้น้ำผสมสารเคมีฉีดเตือนผู้ชุมนุม ก่อนจะใช้ก๊าซน้ำตาชนิดขว้าง แล้วตำรวจก็ถอยร่นไปจนถึงหน้าประตูรัฐสภา
ดังนั้น มาตรการต่างๆ นั้นใช้ตามความจำเป็น เพื่อป้องกันเหตุวุ่นวายใหญ่โตในบ้านเมือง อะไรที่ไม่จำเป็นจะยังไม่ใช้ โดยเลือกใช้เฉพาะวิธีที่เหมาะสมกับการชุมนุมแต่ละครั้ง ยืนยันไม่มีการใช้กระสุนยางและกระสุนจริงไปปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้แน่นอน
เหตุดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บเป็นทั้งตำรวจและผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย และมีอีกจำนวนหนึ่งที่กำลังตรวจสอบว่าบาดเจ็บจากการถูกกระสุนปืนยิงที่ถนนทหารจริงหรือไม่ จากเหตุชุลมุนรอบที่สองของกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎรกับกลุ่มคนเสื้อเหลือง ซึ่งแพทย์กำลังตรวจรักษา คาดว่าจะเป็นกลุ่มวิ่งเข้าไปที่ชุมนุมวัดใหม่ทองเสน เพราะก่อนเกิดเหตุมีการเปิดเพลงยั่วยุระหว่างกลุ่มอาชีวะที่อาสามาเป็นการ์ดทั้งสองฝ่าย
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าเหตุใดตำรวจไม่สกัดกั้นการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่าย พล.ต.ต.ปิยะ ระบุว่าว่า ตำรวจพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะเนื่องจากเป็นคนกลาง พร้อมพยายามจัดผู้ชุมนุม 3 ฝ่ายอยู่ที่ถนนทหาร ส่วนคณะราษฎร อยู่ที่ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ยืนยันว่ายึดหลักนิติศาสตร์และยุทธศาสตร์ควบคู่กันไป ซึ่งตำรวจได้นำแผงเหล็กมากั้นระหว่างมวลชน 2 ฝ่ายที่ถนนทหารตามที่ปรากฎตามสื่อไปแล้ว ส่วนคนที่บาดเจ็บนั้น หากใครมีพยานหลักฐานว่าถูกใครทำร้ายให้นำมามอบกับตำรวจเพื่อไปประกอบสำนวนได้ อีกทั้งที่เกิดเหตุก็มีกล้องวงจรปิด สำหรับความเสียหายทางทรัพย์สินราชการ เบื้องต้นมีรถตำรวจและทรัพย์สินกรุงเทพมหานคร เช่น รั้วเหล็กต่างๆ มีจำนวนมากพอสมควร
นอกจากนี้ ตำรวจกำลังตรวจสอบเหตุที่พบยาไอซ์และอุปกรณ์ยาเสพติดในรถตำรวจสน.บุคคโล เช่นกัน
กลุ่มผู้ชุมนุมขอเจรจาตร.ทำกิจกรรม ขณะที่เยาวชนปลดแอก เผยภาพเด็กอนุบาลโดนลูกหลง
ด่วน! ตร. ฉีดน้ำไล่ผู้ชุมนุม กันไม่ให้เข้าพื้นที่ พร้อมขู่เตรียมใช้กระสุนยาง (คลิป)
