นาย ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงถึงการจัดสรรงบประมาณในปี 2565 โดยตัดงบลงทุนส่วนใหญ่ลงว่า ขณะนี้ธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ดังนั้นรัฐบาลควรเพิ่มงบลงทุน เพื่อให้มีเงินในธุรกิจหมุนเวียน และในครั้งนี้มีการระบาดซ้ำ ซึ่งรุนแรงกว่าครั้งแรก นายกรัฐมนตรีควรช่วยเหลือเยียวยาประชาชนมากกว่านี้ และไม่ควรอ้างว่าไม่มีเงิน เพราะจากการตรวจสอบการจัดสรรงบประมาณของกองทัพ เห็นว่าในงบประมาณปี 2565 ยังมีการขอจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ โดยในส่วนของกองทัพเรือ มีการจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน อีก 2 ลำ 25,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันยังมีข้อมูลการตั้งงบประมาณในส่วนของกองทัพบก การจัดหาเฮลิคอปเตอร์ 4,226 ล้านบาท และยังมีโครงการจัดหายานเกราะและจัดหายานเกราะล้อยางรวม 6,152 ล้านบาท ส่วนกองทัพอากาศ มีโครงการจัดหาเครื่องบินโจมตีขนาดเบา 4,500 ล้านบาท การสร้างโครงการจัดหากระสุนและวัตถุระเบิดของกองทัพอากาศ 900 ล้านบาท และโครงการปฏิบัติการในอวกาศรวม 6,000 กว่าล้านบาท ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 ยังมีอยู่
ดังนั้น นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะต้องเลิกและตัดงบประมาณการจัดซื้อเหล่านี้ออกไป ซึ่งรวม 3 เหล่าทัพ มีโครงการที่ยังไม่จำเป็นในตอนนี้ถึง 38,000 ล้านบาทบาท ดังนั้นควรนำเงินเหล่านี้มาช่วยเหลือเยียวยาประชาชนให้ครอบคลุมทุกจังหวัดไม่ใช่เฉพาะ 28 จังหวัดซึ่งจะช่วยประชาชนคนละ 3,500 บาทได้ถึง 5.43 ล้านคน
นายยุทธพงษ์ ยังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี แก้ไขปัญหาบ่อนการพนันอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดโควิด-19 และเห็นว่าที่ผ่านมา “ดีแต่พูด” โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ มีกรณีบ่นเฮียตี้ มีกรณีโต๊ะบาคาร่าหล่น เหตุใดผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังไม่ต้องรับผิดชอบอะไรและยัง “หนังเหนียว” รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ตอนที่ยังคงอยู่ได้ในขณะที่มีการจับบ่อนย่านนนทบุรี ซึ่งไม่เชื่อว่ามีบ่อนโดยที่ตำรวจไม่ทราบ
นอกจากนี้รัฐบาลยังมีปัญหาเรื่องของ การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ปล่อยปละละเลยให้ประชาชนต้องจ่าย สูงสุดถึง 158 บาท จึงจะเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ จะถูกหยิบยกมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องอย่างน้อย 3 คนคือ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และครั้งนี้พรรคฝ่ายค้านมี “หมัดเด็ด” ว่าคนที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจะต้องถูกส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญว่าสิ่งที่ทำขัดรัฐธรรมนูญ หรือไม่ และย้ำว่า ครั้งนี้นายกรัฐมนตรี หนักจริงๆ ทั้งบ่อนเถื่อน แรงงานเถื่อน