ยิ่งใช้ยิ่งได้ —- จากกรณีที่เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2564 ที่ประชุมครม. ได้อนุมัติโครงการช่วยเหลือประชาชน ในช่วงที่โควิด19 แพร่ระบาด 4 โครงการ ซึ่งมีทั้ง โครงการเติมเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, โครงการเติมเงินให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ, โครงการคนละครึ่งเฟส 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้
ในส่วนของโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ถือเป็นโครงการใหม่ โดยทางกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า โครงการมีจุดประสงค์กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศผ่านผู้มีกำลังซื้อ และสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข่าวดี! ครม.ไฟเขียวมาตรการเยียวยา คนละครึ่งเฟส3 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยิ่งใช้ยิ่งได้
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะเปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 21 มิ.ย.64 นี้ ผ่านทางเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 22.00 น. ส่วนผู้ที่เคยใช้จ่ายผ่าน G-wallet สามารถลงทะเบียนได้ทั้งผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com
ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ยิ่งใช้ยิ่งได้จะได้รับวงเงินสนับสนุนในรูปของบัตรกำนัลอิเลกทรอนิกส์ (e-Voucher) โดยวงเงินใช้จ่ายที่จะนำมาคำนวณสิทธิ e-Voucher ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน และยอดใช้จ่ายที่นำมาคำนวณสิทธิไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อวัน และจะได้รับสิทธิ e-Voucher สะสมสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
โดยยอดใช้จ่ายจริงตั้งแต่ 1-40,000 บาทแรก ได้รับ e-Voucher ร้อยละ 10 ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน และยอดใช้จ่ายจริงตั้งแต่ 40,001-60,000 บาท ได้รับ e-Voucher ร้อยละ 15 ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ซึ่งสิทธิ e-Voucher จะคืนเป็นวงเงินใน G-Wallet ทุกต้นเดือนถัดไป โดยไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้ โดยวงเงินสำหรับการดำเนินโครงการรวม 28,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจเป็นเงิน 268,000 ล้านบาท
ส่องรายละเอียด คนละครึ่งเฟส3 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยิ่งใช้ยิ่งได้ ก่อนคลังเสนอครม.พรุ่งนี้
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้
-สัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป
-มีบัตรประชาชน
-ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน)
ไม่เป็นผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ (ผู้พิการ,ผู้สูงอายุ)
-ไม่เป็นผู้ใช้สิทธิในโครงการคนละครึ่งเฟส 3
วิธีการใช้จ่าย
-ใช้จ่ายผ่าน G-wallet ในแอพฯ “เป๋าตัง” กับร้านค้าผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ติดตั้งแอพฯ “ถุงเงิน”
-ใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่กรกฎาคม – กันยายน 2564 และใช้ e-Voucher (เงินคืน) ได้ในช่วงเดือนสิงหาคม – ธันวาคม 2564
ผู้ที่ได้รับสิทธิ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ จะต้องกด “ยืนยันตัวตน” ด้วยบัตรประจำตัวประชาชน ที่สาขาหรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ยกเว้น ผู้ที่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทยฯ หรือผู้ที่มีแอพพลิเคชัน KrungthaiNext
ทั้งนี้ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ตั้งเป้าผู้สิทธิ์ไม่เกิน 4 ล้านคน และสามารถชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการต่างๆ เช่น อาหาร, เครื่องดื่ม, สินค้าทั่วไป, ค่าบริการนวด, สปา, ทำผมทำเล็บ ยกเว้นสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ ผ่าน G-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการ