กองทัพเรือ พล.ร.ท.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา กองทัพเรือ ได้จัดให้มีการประชุมหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ โดยมี พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานการประชุมร่วมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม
ซึ่งมีวาระการประชุมที่สำคัญคือ การเตรียมความพร้อมในการรายงานตัวของทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ผลัด 3/63 ของกองทัพเรือ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด – 19 ระลอกใหม่ และการปฏิบัติภารกิจของกำลังพลเรือหลวงจักรีนฤเบศร ภายหลังการกักตัวครบ 14 วัน
ในส่วนของการรายงานตัวของทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ผลัด 3/63 ของกองทัพเรือ ที่จะมีขึ้นนี้ในระหว่างวันที่ 1 – 2 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งเป็นการรับทหารใหม่ในห้วงเวลาที่มีการระบาดของเชื้อโควิด – 19 ระลอกใหม่ ซึ่งผู้บัญชาการทหารเรือ ได้แสดงความห่วงใย พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เกิดความปลอดภัยไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด ด้วยมาตรการที่เข้มแข็ง ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วย
หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กรมแพทย์ทหารเรือและกรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ได้ร่วมกันเตรียมความพร้อม และประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ทหารใหม่ทั้ง 4,934 นาย รวมถึงครอบครัวของทหารใหม่ ให้ทราบถึงการกำหนดแนวทางปฏิบัติตั้งแต่เริ่มขึ้นรถในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เพื่อเดินทางมายังศูนย์การฝึกหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นไปตามกรอบและมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีกรมแพทย์ทหารเรือเป็นหน่วยกำกับดูแลอีกชั้นหนึ่ง
สำหรับแนวการปฏิบัติที่สำคัญจะดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
– จัดให้มีการคัดกรองก่อนการเดินทาง และให้เดินทางมากับรถที่จัดให้แบบ new normal มายังศูนย์การฝึกหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
– จัดให้มีการระวังป้องกันส่วนบุคคลในการเดินทางมารายงานตัวอย่างเคร่งครัด
– จัดให้มีสถานีต่าง ๆ ในการรับทหารใหม่ เมื่อมาถึงศูนย์การฝึกหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน แบบระวังป้องกันในทุกรายละเอียด และให้หน่วยงานเวชกรรมป้องกัน ของกรมแพทย์ทหารเรือ ดำเนินการเก็บสิ่งส่งตรวจ ที่ห้องปฏิบัติการตรวจเชื้อ เพื่อหาเชื้อตามแนวทางการหาจากในกลุ่มที่มาจากจังหวัดที่มีการระบาด
– มีการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นในช่วง 14 วันแรก
– ควบคุมกิจกรรมทุกอย่างให้อยู่ภายใต้มาตรการที่กำหนดในช่วง 14 วันแรก
– มีระบบการควบคุมให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันกับอาคารนอน กราบพัก การอาบน้ำ
การรับประทานอาหาร
– จัดให้มีการดำเนินการภายใต้การเฝ้าระวังใน 14 วันแรก และหากพบผู้ติดเชื้อจะดำเนินการตามขั้นตอน โดยมีโรงพยาบาลรองรับในพื้นที่
– จัดให้มีการให้ความรู้แก่ทหารใหม่ทุกนายอย่างสม่ำเสมอ มีมาตรการยึดถือร่วมกันโดยกวดขันให้ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวอย่างจริงจัง
– กรณีที่หมดระยะเวลาในการเฝ้าระวัง หากต้องมีการปล่อยก็จะดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้ต่อไป
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวอีกว่า กองทัพเรือ ได้ดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ โดยมุ่งหวัง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น มั่นใจในมาตรการ และเป็นการแสดงออกซึ่งความตั้งใจจริงในการดูแลบุตรหลานของพี่น้องประชาชน โดยในวันที่ 28 มกราคม นี้ กองทัพเรือ จะได้จัดให้มีการซักซ้อมการปฏิบัติในการเข้ารายงานตัวของทหารใหม่เหมือนวันจริง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ภายใต้การกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดของทางกรมแพทย์ทหารเรือ นอกจากนั้นทางกรมกิจการพลเรือนทหารเรือ จะได้จัดทำ
วีดีทัศน์ประชาสัมพันธ์เป็นการเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความเข้าใจและเชื่อมั่นในการเดินทางมาของน้อง ๆ ทหารใหม่ ในพื้นที่สัตหีบ นอกจากนั้น หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จะได้เชิญส่วนราชการ และหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เข้าเยี่ยมชมรับฟังคำชี้แจงเพื่อให้เกิดความมั่นใจ เพื่อนำไปบอกเล่าให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ต่อไป
ในส่วนของ กำลังพลเรือหลวงจักรีนฤเบศร ซึ่งกักตัวครบ 14 วัน ภายหลังมีการตรวจพบว่ามีกำลังพลประจำเรือติดเชื้อไวรัส COVID – 19 นั้น ขณะนี้ กำลังพลทุกนายของเรือหลวงจักรีนฤเบศร ได้เริ่มมาปฏิบัติงานบนเรืออีกครั้งอย่างเข้มแข็ง ซึ่งถือได้ว่าที่ผ่านมาเป็นการแสดงออกถึงความร่วมมือปฏิบัติภายใต้มาตรการของทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งกองทัพเรือ ขอขอบคุณทุกกำลังใจของพี่น้องประชาชนที่ส่งมาถึงกำลังพลประจำเรือทุกนาย
อนึ่ง ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชยแก่ จ่าเอก ณัฐวรรษน์ ภวัตณัฐรัชต์ จ่าเอก โยธิน เกล้าวิกรณ์ และ พลทหาร บดินทร์ นำวัฒนาเจริญ สังกัดกองสนับสนุน กองเรือยุทธการ ที่มีความกล้าหาญ ร่วมกันสร้างความดี ช่วยเหลือชีวิตประชาชนที่พลัดตกตกทะเล จนได้รับความปลอดภัย
ทั้งนี้ สืบเนื่องกำลังพลทั้ง 3 นาย ได้เข้าช่วยเหลือชีวิต นางผุสดี คันโท อายุ 63 ปี ที่มีอาการหน้ามืดพลัดตกทะเล บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสัตหีบ ก่อนถูกกระแสน้ำพลัด ลอยไปบริเวณทุ่นไฟปากร่อง อ่าวดงตาล ขณะที่กำลังพลทั้ง 3 นาย อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่เวรยาม บริเวณท่าเทียบเรือกลางอ่าว กองเรือยุทธการ เกิดได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ทั้งหมดจึงตัดสินใจนำเรือเล็กออกฝั่งเข้าช่วยเหลือในทันทีทันใด จนสามารถรอดชีวิตมาได้ ก่อนช่วยปฐมพยาบาล พร้อมประสานครอบครัวที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ให้มารับตัวกลับบ้านด้วยความปลอดภัย