ม็อบนักศึกษา 11 ก.ย.63 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคดีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ละเมิดอำนาจศาล ที่ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา เป็นผู้กล่าวหา กรณีช่วงเช้าวันที่ 8 ส.ค. 2563 ที่พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ นำตัวอานนท์ นำภา และภาณุพงศ์ จาดนอก ในฐานะ 2 ผู้ต้องหา คดีปราศรัยยุยงปลุกปั่น มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลอาญา ได้เกิดการรวมตัวของบุคคลผู้สนับสนุน บริเวณหน้ามุกบันไดทางขึ้นศาลอาญา
ตามคำร้องของผู้กล่าวหา ระบุถึงพฤติกรรมของนายพริษฐ์ ที่ได้ยืนขึ้นตะโกนส่งเสียงดัง ใช้กล้องถ่ายภาพและไลฟ์สดชักชวนให้บุคลอื่น ๆ เดินทางมาชุมนุม ขัดขวางการพิจารณาของศาล ทำให้เกิดความไม่สงบและไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล
กระทั่ง นายพริษฐ์ เดินทางมาที่ศาลพร้อมกับแสดงสัญลักษณ์ ชู 3 นิ้ว ต่อสื่อมวลชน พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา และจะต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด โดยเตรียมพยานและการแก้ข้อกล่าวหาไว้ชี้แจงต่อศาลแล้ว และมองว่า เจตนารมณ์ของกฎหมายละเมิดอำนาจศาล มีไว้ใช้ดูแลความสงบในห้องพิจารณาคดี ดังเช่นประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับทุกสิ่งที่เผด็จการยัดเยียดให้และจะเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนโดนมาแล้วหลายคดี แต่ก็อยากจะบอกศาลด้วยว่า แม้มีอำนาจตัดสินแต่อำนาจทั้งหมดนั้นล้วนมาจากประชาชนทั้งสิ้น จึงไม่ต้องการเห็นการใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพราะยิ่งจะสร้างความเสื่อมเสียต่อกระบวนการยุติธรรมไทยและทำให้ประชาชนหมดความเชื่อมั่นต่อศาลมากขึ้นไปอีก โดยมองว่า ที่ผ่านมามาตรฐานกระบวนการยุติธรรมไทยตกต่ำลงเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสากล