นาย ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “ฉีกบัตรประชามติ” โดยระบุข้อความว่า
“พรุ่งนี้ วันที่ 21 กรกฎาคม 2563 เวลา 9.00 น. ผมจะไปร่วมฟังคำพิพากษาศาลฎีกาพร้อมให้กำลังใจ ‘โตโต้’ ปิยรัฐ จงเทพ ที่ศาลจังหวัดพระโขนง ในคดีฉีกบัตรประชามติ จากกรณีฉีกบัตรออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ขณะเข้าไปลงคะแนนเสียง พร้อมตะโกนถ้อยคำของ ครูครอง จันดาวงศ์ ว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ” เพื่อแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่ชอบธรรม เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2559
ธนาธร ยันไม่อยู่เบื้องหลัง! ปลดแอกเยาวชน เชื่อกลุ่มคนเคลื่อนไหวหวังดีชาติ
เดิมศาลชั้นต้นตัดสินยกฟ้องในฐานความผิดก่อความวุ่นวายในเขตหน่วยออกเสียงประชามติ เพราะเป็นการกระทำโดยสงบ แต่ลงโทษจำคุกในข้อหาอื่น โดยให้จำคุก 4 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี ต่อมาศาลอุทธรณ์กลับมีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลชั้นต้นให้ลงโทษในความผิดฐานก่อความวุ่นวายด้วย
ทางปิยรัฐจึงตัดสินใจยื่นฎีกาโต้แย้งคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ เพราะต้องการแสดงจุดยืนว่าการกระทำของเราไม่ได้เป็นการก่อความวุ่นวาย
พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 และการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญไทย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2559 มีปัญหาในด้านการรณรงค์ให้ข้อมูลที่ไม่รอบด้าน เพราะฝ่ายที่รณรงค์ไม่รับร่างฯ ถูกดำเนินคดีและกลายเป็น “ผู้ต้องหาประชามติ” กว่า 200 คน และในปัจจุบันยังคงถูกดำเนินคดีอยู่กว่า 100 คน (ดูเพิ่มเติมที่ https://www.tlhr2014.com/?p=3924)
ในเมื่อรัฐธรรมนูญ 60 ก็ผ่านการประชามติและประกาศใช้มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่การยังคงคดีความในความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ไว้ คือสัญลักษณ์ของกระบวนการประชามติที่ไม่ชอบธรรม เต็มไปด้วยการปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออก และยิ่งมีคนถูกดำเนิคดีมากเท่าไหร่ ยิ่งคดียังคงดำเนินต่อไปนานเท่าไหร่ ยิ่งแสดงให้เห็นว่าประชามติครั้งนี้มีปัญหา และส่งผลให้รัฐธรรมนูญ 60 ไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่มาจากฉันทามติของประชาชนอย่างแท้จริง
วินธัย แจงกรณี ผู้พันเจี๊ยบ โพสต์เหน็บม็อบนศ.เป็นการแสดงความเห็นส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับกองทัพ
ก้าวไกล วอนรัฐบาลและกองทัพคำนึงถึงความทุกข์ยากของประชาชน ยุติซื้อเครื่องบินหรู
