ปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟสบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยว่าตนและคณะก้าวหน้าได้ถูกตำรวจ และเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงติดตามอยู่ตลอด ขณะที่ลงพื้นที่ทำงานในหลายจังหวัดของภาคอีสาน ซึ่งนายปิยบุตรเข้าใจดีว่าเจ้าหน้าที่เหล่านี้ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา แต่ได้ตั้งคำถามไปว่าคณะก้าวหน้าเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐบาล หรือประชาชนกันแน่ ถึงต้องให้เจ้าหน้าที่ตามประกอบตลอดเวลา
นายปิยบุตร ระบุด้วยว่าแม้ตนจะถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี แต่ก็ยังเป็นคนไทย รักชาติ รักประชาธิปไตย และอยากให้สังคมไทยเปลี่ยนแปลงให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ พร้อมกับขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐหยุดคุกคามเสรีภาพและความเป็นอยู่ส่วนตัวของคณะก้าวหน้าและทีมงานได้แล้ว โดยภายในโพสต์ของนายปิยบุตรระบุไว้ดังนี้
“สัปดาห์นี้ผมเดินทางมาเยี่ยมเยือนทีมงาน #คณะก้าวหน้า พูดคุยกันแบบวงเล็กๆ ในหลายจังหวัดภาคอีสาน
แต่เมี่อหน่วยงานความมั่นคงทราบก็ได้ส่ง ตำรวจสันติบาล-เจ้าหน้าที่ความมั่นคง ติดตามผมตั้งแต่จังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร ตามผมไปทุกที่ ตั้งแต่สำนักงาน ตลาด ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก และพยายามสอบถามเส้นทางการเดินทาง ตารางงาน ร้านอาหารที่จะไป โรงแรมที่จะอยู่ จากทีมงานตลอดทาง ถ่ายภาพผู้ที่มาพูดคุยกับผม พร้อมทั้งป้ายทะเบียนรถที่ใช้เดินทางมาด้วย
ผมเห็นใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนและเข้าใจดีว่าเป็นการปฏิบัติงานตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเท่านั้น
คำถามคือเหตุใดผู้บังคับบัญชาจึงต้องมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ติดตามผมตลอดทาง? การเดินทางมาพบปะพูดคุย ขอบคุณ และให้กำลังใจทีมงานของคณะก้าวหน้า ซึ่งหลายคนเป็นทีมงานมาตั้งแต่ #พรรคอนาคตใหม่ ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติหรือ? และมีคำสั่งให้ติดตามนักการเมืองทุกคนแบบเดียวกับผมหรือไม่?
ตกลงแล้วคำว่า “ความมั่นคง” ในความคิดของรัฐบาล คืออะไรกันแน่ ความมั่นคงของประเทศ ความมั่นคงของประชาชน หรือความมั่นคงของรัฐบาลเท่านั้น?
ผมยืนยันว่า แม้ผมจะถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี แต่ผมก็ยังคงเป็นพลเมืองไทย รักชาติ รักประชาธิปไตย อยากให้สังคมไทยก้าวหน้า เปลี่ยนแปลงให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ หยุดคุกคามเสรีภาพและความเป็นอยู่ส่วนตัวของคณะก้าวหน้าและทีมงานของเราได้แล้ว
ผมหวังว่าเมื่อผมออกจากพื้นที่ไปแล้ว จะไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปคุกคาม-ติดตามทีมงานที่อยู่ในพื้นที่อีก”