บิ๊กตู่ โชว์ทีมเศรษฐกิจ พร้อมเร่งแก้ปัญหาปากท้อง วอน อย่าทำลายศักยภาพด้วยเรื่องที่ไม่ควร

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นำ ทีมเศรษฐกิจ ซึ่งประกอบด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง คนใหม่ และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

โดยพล.อ.ประยุทธ์ เผยว่า หลังจากวานนี้นายอาคม ได้เข้าพิธีถวายสัตย์ฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถือเป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่ในวันนี้ก็แล้วกัน ขณะเดียวกันในวันเดียวกันนี้ที่ตนนำฝ่ายเศรษฐกิจมา เพื่อสร้างความเข้าใจกับทุกคนทั้งในส่วนของสื่อ สังคม และประชาชนโดยรวมว่าเราจะทำอย่างเต็มที่ และจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ได้อย่างระมัดระวังที่สุดให้มาตรการต่าง ๆ ครอบคลุมทุกกลุ่ม

สำหรับที่ประชุมครม.ในวันนี้มีการอนุมัติหลายเรื่องเกี่ยวกับงานด้านเศรษฐกิจ โดยภารกิจสำคัญที่ตนมุ่งเน้นเป็นอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา คือการดูแลและบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจปากท้องช่วยคนไทยหลายสิบล้านคนให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้ ขณะเดียวกันในส่วนของคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศหลายแสนคนที่กำลังทยอยเดินทางกลับมาก็ต้องมีการดำเนินการต่อเนื่อง ขณะที่สิ่งที่ประชุมใน ศบศ. ก็มีทั้งมาตรการบรรเทาผลกระทบจากวิกฤติที่เกิดขึ้นทั่วโลก พร้อมปรับปรุงมาตรการต่าง ๆ ให้ดีขึ้น และมีมาตรการใหม่ ๆ ออกมาเพิ่มเติม ซึ่งเราต้องทำหลายมาตรการไปพร้อมกันโดยเป้าหมายหลักคือการช่วยคนที่มีรายได้น้อย ให้พอมีเงินใช้จ่าย และทำให้คนที่มีรายได้มากหรือคนที่มีเงินแต่ไม่อยากใช้ออกมาใช้เงินให้มากขึ้น เพื่อให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งมีทั้งผู้ผลิต แปรรูป และตลาด

วันนี้ทุกคนต้องช่วยกันอย่าไปรังเกียจรังงอนซึ่งกันและกัน อีกทั้งตนขอขอบคุณภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นสมาคม องค์กรและภาคธุรกิจต่าง ๆ ที่เข้าร่วมเวิร์กช็อป ที่รัฐบาลได้จัดตั้งขึ้น เพื่อนำเสนอความคิดเห็นให้ตนได้รับทราบ เพื่อให้ตรงกับความต้องการ พร้อมแก้ปัญหาและอุปสรรคในช่วงที่ผ่านมา โดยหลายคนได้เสนอความคิดผ่านคณะทำงานต่าง ๆ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการให้รัฐบาลนำมาวิเคราะห์และหาวิธีการดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จให้ได้โดยเร็ว

“เรื่องสำคัญที่สุดคือการที่เราใช้คำว่ารวมไทยสร้างชาติ ผมย้ำว่าทุกคนที่เป็นคนไทย เกิดในผืนแผ่นดินไทย จะต้องจับมือร่วมกันทุกภาคส่วน ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เพื่อช่วยนำพาประเทศไทยของเราให้ก้าวไปข้างหน้า วันนี้มี 3 มาตรการสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายภายในประเทศ ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติวันนี้ ได้แก่ 1.มาตรการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ประชาชน 14 ล้านคน คนละ 1,500 บาท อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอยู่ 2.มาตรการคนละครึ่ง เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย โดยประชาชนจ่ายครึ่งหนึ่ง และรัฐบาลช่วยออกอีกครึ่งหนึ่ง สำหรับผู้มีรายได้น้อยและร้านค้าปลีกที่ต้องขึ้นทะเบียน

และ 3.มาตรการช็อปดีมีคืน คือประชาชนนำค่าใช้จ่ายซื้อสินค้ามาลดหย่อนภาษีได้ 30,000 บาท ซึ่งขอ 50,000 คงไม่ไหว โดยให้ซื้อสินค้าคงทน ซึ่งจะเห็นว่าเรามีมาตรการเฉพาะกลุ่มลงไปและจะทยอยออกมาเรื่อยๆ” นายกฯ กล่าว

สำหรับทั้ง 3 มาตรการเพื่อเป็นการดึงเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ คนซื้อมีเงินซื้อสินค้า และบริการ ขณะที่เจ้าของสินค้าและคนผลิตสามารถขายของได้ เกิดการกระจายเงินสร้างงานและสร้างรายได้ตามมาทั้งในระบบ และเพื่อช่วยให้ดำรงชีพอยู่ได้ ดังนั้นขออย่านำไปใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ เพราะจะกลายเป็นปัญหาอื่นๆ ได้ เช่นการเป็นหนี้ครัวเรือน ดังนั้นช่วงนี้ต้องใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อย่างไรก็ตามทุกอย่างรัฐบาลต้องมองทั้งระบบ และทำหลายมาตรการไปพร้อมกัน ซึ่งหลังจากนี้จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของคนไทยให้ได้ ขณะเดียวกันตนได้ติดตามจากต่างประเทศและนำมาเปรียบเทียบกับประเทศไทย ซึ่งมีหลายส่วนที่เหมือนกันเพียงแต่หลายประเทศเป็นประเทศใหญ่และมีเงินมากกว่า แต่เราต้องทำให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มีอยู่

ทุกประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจทั้งหมด หลายประเทศแย่กว่าเราอีก แต่เรามีศักยภาพอยู่ ดังนั้นเราอย่าทำลายศักยภาพของเราเองด้วยเรื่องที่ไม่ควร เพราะจะทำความเชื่อมั่นต่าง ๆ หายไป แล้วทำอย่างไร จะเอาอะไรกลับคืนมา เอากลับมาไม่ได้แล้ว ถ้าเสียหายตอนนี้ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงนี้การแข่งขัน เป็นช่วงการเเก้ปัญหาโควิด และช่วงดำเนินการโลกหลังโควิด ถ้าเราทำลายกันตอนนี้ ถึงเวลาเราจะฟื้นกลับมาไม่ได้เลย เพราะเราไม่ทันเขาแน่นอน จึงขอฝากไปด้วยถึงพี่น้องประชาชนทุกคน ขอให้รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองให้มากที่สุด ช่วยกันเคารพกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับคนอื่นแค่นั้นเอง

ส่วนกรณีกลุ่มคณะราษฎรนัดชุมนุม 14 ต.ค. และประกาศจะเดินทางมาค้างคืนที่ข้างทำเนียบ นั้น เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะดำเนินการอยู่แล้ว ตนไม่ต้องสั่งการอะไรเพิ่มเติมอยู่แล้ว

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินออกไปจากห้องแถลงข่าวทันที โดยไม่ได้ตอบคำถามเรื่องอื่น ๆ แต่อย่างใด

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

ผิดแค่ไหน! พ่อค้าร้านขาหมูประกาศหยุดขาย หลังถูกร้องเรียนเสียงดัง

พ่อค้าร้านข้าวประกาศ หยุดขายขาหมู หลังเพื่อนบ้านร้องเรียน สับหมูรบกวนเสียงดัง ล่าสุดเทศบาลนัด 2 ฝ่ายไกล่เกลี่ยพรุ่งนี้

สพฐ. แจงปม ผอ.โรงเรียนหวงเก้าอี้ ที่ร้อยเอ็ด ชี้! ผิดวินัยไม่ร้ายแรง

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เผยผลสรุป ผอ.โรงเรียนหวงเก้าอี้ พบผิดวินัยไม่ร้ายแรง เตรียมลงดาบทางวินัย แต่ให้โอกาสปรับปรุงตัว

ณเดชน์ ใจวูบ! หลังเห็นกระแสข่าว เลื่อนงานแต่ง พร้อมขอโทษ ญาญ่า

ณเดชน์ คูกิมิยะ ถึงกับใจวูบ! หลังเห็นกระแสข่าว เลื่อนงานแต่ง บานปลายสร้างความเข้าใจผิด พร้อมขอโทษ ญาญ่า อุรัสยา

แชร์สนั่น! “ซีอิ๊วขาวแบบเม็ด” นวัฒกรรมใหม่เด็กสมบูรณ์ พกง่าย ละลายเร็ว

ชาวเน็ตอึ้ง! เด็กสมบูรณ์เปิดตัว “ซีอิ๊วขาวแบบเม็ด” นวัฒกรรมใหม่ ของซีอิ๊วขาว มาพร้อมกับสโลแกน พกสะดวก ละลายไวใน 5 วินาที

ป๊ายปาย โอริโอ้ โพสต์ยินดี สมรสเท่าเทียมผ่าน เผยเป็นวันที่รอคอยมานาน

ป๊ายปาย โอริโอ้ โพสต์ข้อความร่วมยินดี เมื่อสมรสเท่าเทียมผ่านครม. พร้อมเผยเป็นวันที่รอคอยมานานมาก โลกเปิดกว้าง ไม่จำกัดเพศ
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า