ประยุทธ์ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณา พ.ร.ก. 3 ฉบับ เพื่อฟื้นฟูแก้ปัญหาในสถานการณ์ระบาดไวรัสโควิด-19 ว่า พ.ร.ก.การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เป็นฉบับเดียวใน พ.ร.ก. 3 ฉบับที่ไม่จำเป็น และเป็นการเปลี่ยนสถานะของธนาคารแห่งประเทศไทยที่คอยกำกับดูแลให้ไปเป็นผู้เล่นเสียเอง ซึ่งอาจทำให้ “ความเป็นกลางของธนาคารแห่งประเทศไทยหายไป” และต่างประเทศก็ไม่เคยมีธนาคารกลางเข้ามาเป็นผู้เล่นเองแบบนี้ ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีศักยภาพในเชิงธุรกิจที่ดีอยู่แล้ว ไม่มีสัญญาณอะไรบ่งบอกว่าจะมีการผิดชำระหรือกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ที่จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยยะสำคัญอย่างใด
นายวิสาร กล่าวว่า ถึงแม้ผู้ออกตราสารหนี้บางรายจะมีปัญหาทางการเงินอยู่บ้าง แต่ก็มีศักยภาพเพียงพอที่จะหาแหล่งเงินทุนพยุงตัวเองได้ หลายบริษัทเป็นบริษัทข้ามชาติ เขาคงไม่ปล่อยให้ตัวเองเสียเครดิต ดังนั้น สภาพคล่องทางสินเชื่อก็ยังคงมีอยู่ ที่สำคัญคณะกรรมการดูแลกำกับกองทุนมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน แทนที่จะให้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งอาจจะเป็นช่องว่างให้การเมืองเข้ามาแทรกแซงได้
นายวิสาร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาไม่มีสัญญาบ่งบอกตลาดตราสารหนี้จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ หลายบริษัทหาเงินทุนมาพยุงตัวเองได้ ไม่มีปัญหาการขาดสภาพคล่องการแก้ปัญหาจะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ความเชื่อมั่นของผู้นำ แต่ผู้นำบ้านเราตัดสินใจช้า บางทีก็ตอบกันไปคนละทาง ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พูดมาตลอดตั้งแต่จะไม่เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ยึดอำนาจ ไม่เล่นการเมืองต่อ แต่สุดท้ายแล้วก็สืบต่ออำนาจ
“รัฐบาลชุดนี้ คิดแบบไม่เห็นหัวประชาชน ไม่มีกระบวนทัศน์ด้านการบริหารประเทศ รวบอำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว สร้างภาระหนี้สินให้กับประชาชนชั่วลูกชั่วหลาน ตอนนี้เมืองไทยจะล้มละลาย วิธีการแก้มีอย่างเดียว โดยคนๆเดียวคือ ประยุทธ์ออกไปเถอะ รับรองโควิดหาย เศรษฐกิจดี” นายวิสาร กล่าว