พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยกรณีผู้อพยพจากฝั่งรัฐกะเหรี่ยงจะทะลักเข้ามาในประเทศว่า คงยังไม่ถึงขนาดทะลักเข้ามาในตอนนี้ เท่าที่เห็นจากภาพที่สื่อบางคนนำมาเผยแพร่ จริง ๆ แล้มีการเจรจาพูดคุย หลายคนเข้ามาในหมู่บ้านนั้น หมู่บ้านนี้ นำร่องเข้ามาก่อน เมื่อมาเจอ เราก็ชี้แจง ซึ่งเราก็ถามว่ามีปัญหาอะไรในประเทศของเขาในส่วนที่เขาอยู่ เมื่อเขาบอกว่าไม่มี ก็ขอให้กลับไปก่อนได้หรือไม่ ไม่ได้เอาปืนผาหน้าไม้ไปจี้ไปไล่เขา จับไม้จับมืออวยพรด้วยซ้ำไป นั่นคือมนุษยธรรม หากสถานการณ์มีความรุนแรงขึ้นก็ค่อยแก้กัน
ฉีกกติกาสากล! ทหารไทย ถือปืนขึงลวด กดดัน ผู้อพยพกะเหรี่ยง ไม่ให้ขึ้นไทย
โดยไทยมีประสบการณ์พวกนี้มาหลายปี มีศูนย์อพยพ 9 ศูนย์ 4 แสนกว่าคน 10-20 ปี วันนี้เหลือเพียงแสนกว่าคน เดิมเคยสัญญาว่าจะเอากลับ แต่เมื่อมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก็ต้องหยุดไว้อีก ขณะเดียวกันของใหม่ก็ต้องเตรียมการให้พร้อม เราต้องดูแลมันเป็นมนุษยธรรม ประสบการณ์เราเยอะไม่ต้องห่วง ไม่มีการผลักดัน ถ้าเขารบ ๆ กันอยู่จะผลักดันไปได้อย่างไร แต่ถ้าไม่มีก็กลับไปก่อนได้หรือไม่
ส่วนกรณีที่มีการแจ้งว่าได้รับนโยบายให้บล็อกผู้ลี้ภัย นั้น เราจำเป็น เพราะเป็นเขตแดนไทย อันดับแรกที่จะเข้ามาจะต้องเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย แต่สถานการณ์สู้รบก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าเกิดภัยพิบัติหรือเกิดบาดเจ็บล้มตายทางโน้นเขาอาจจะเข้ามา เราก็ต้องหามาตรการของเรา ตนได้เตรียมเรื่องนี้ไว้แล้ว ยืนยันว่าจะไม่ผลักดันถ้าเดือดร้อนจริง และหากมีการสู้รบเราก็ปฏิเสธไม่ได้ แต่จะไปประกาศโครมครามไม่ยินดีรับเข้ามามันไม่ใช่
ทั้งนี้ เราคุยกันเฉย ๆ ในหลักการ ไม่ได้แก้ตัว วันนี้นายกฯใจเย็นที่สุดแล้ว พูดกับสื่อต้องยิ้ม เดี๋ยวชอบหาว่าเราหน้างอหน้าหงิก บางทีคิดมันก็เครียด หน้าตาก็เลยเครียด จริง ๆ แล้วเป็นคนใจดี ทุกคนรู้นิสัยฉันอยู่แล้ว ส่วนเรื่องเชื้อโควิด-19 นั้นได้เตรียมมาตรการไว้แล้ว ทั้งโรงพยาบาลสนามต่าง ๆ