จากกรณีที่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เกิด สภาล่ม อีกครั้ง เมื่อ 4 ก.พ. 2565 ที่ผ่านมา ส่งผลให้การประชุมสภาผู้แทนราษฎรต้องยุติลง เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ โดยจากการตรวจสอบพบว่า พรรคเพื่อไทยมีส.ส.แสดงตนเพียงแค่ 2 คน คือ นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. ส่วนส.ส.คนอื่นๆของพรรคเพื่อไทยไม่แสดงตน 129 คน
เปิดรายชื่อส.ส.ทำ สภาล่ม เช็กเลยมีใครบ้าง? พบมีส.ส.นั่งในสภา แต่ไม่ยอมแสดงตน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2565 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และรองหัวหน้าพรรคพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวชี้แจงถึงกรณีที่ส.ส.เพื่อไทยไม่แสดงตนในห้องประชุมสภา โดยระบุว่า
เรื่อง #สภาล่ม สองครั้งในวีคนี้ หลายคนสับสนว่าเหตุใด #เพื่อไทย จึงไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม แตกต่างจากก้าวไกลที่อยู่เป็นองค์ประชุม ขอชี้แจงดังนี้ครับ
1.เหตุผลง่ายๆ คือเป้าหมายหลักของพรรคเพื่อไทย คือการยุติการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ และการที่สภาล่ม เป็นสัญญานชี้ว่ารัฐบาลไม่อาจคุมเสียงข้างมากในสภาได้ จะเป็นตัวเร่งให้ยุบสภาเร็วขึ้น เหมือนที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์วันนี้ว่า ถ้าไม่อยากเลือกตั้ง สภาต้องไม่ล่มยืนยันครับ พรรคเพื่อไทยอยากเลือกตั้ง คืนอำนาจให้ประชาชน
2.เรื่อง พรบ.สุรา จริงๆ คือพรบ.สรรพสามิต เสนอโดย สส.เท่า มติพรรคเพื่อไทยคือแสดงตนและเห็นชอบกับ พรบ. แต่มติที่ไม่ร่วมแสดงตน คือญัตติของรัฐบาลที่ว่าจะขอส่ง พรบ.ให้รัฐบาลไปพิจารณาสองเดือน เพราะเป็นแค่เกมส์เตะถ่วงของรัฐบาลเท่านั้น และจะเสียเวลาประมาณ4เดือนเป็นอย่างต่ำ (2เดือนครม. อีก1เดือนปิดสมัยประชุม อีก1เดือนกลับมารอคิวตามวาระสภา) และเมื่อกลับมายังสภา ทุกฝ่ายก็ทราบอยู่แล้วว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีทางผ่าน กม.จากสส.ฝ่ายค้านเด็ดขาด สุดท้ายก็ตก แต่เข้าใจทุกฝ่าย ว่าทางผู้เสนอย่อมประสงค์จำนำเสนอและฝากความคิดไว้ในสังคม แต่เมื่อไม่อาจเล็งผลเลิศ เพื่อไทยเลือกให้สภาล่ม เอาพล.อ.ประยุทธ์ไปไวๆดีกว่า
สภาล่ม ซ้ำซาก! เริ่มต้นปี 65 ล่มไป 3 ครั้ง เปิดสถิติยุคประยุทธ์ ล่ม 10 กว่าครั้ง
3.วันนี้ สดๆร้อนๆ สภาล่มก่อนรายงานเรื่องบำนาญ ข้อเท็จจริงคือมีอีกหนึ่งรายงานก่อนจะถึงบำนาญ และรายงานเหล่านี้เป็นรายงานจาก กมธ.ศึกษามาเสนอสภา พรรคเพื่อไทยมีมติรับรายงานเรื่องบำนาญถ้วนหน้านี้ครับแต่รายงานนี้ไม่ใช่การแก้กม. ไม่มีผลบังคับใช้ การไปบิดเบือนว่ารายงานนี้จะทำให้เกิดระบบบำนาญจริงเป็นเรื่องเท็จ
เมื่อสภามีมติรับรายงาน จะต้องลงมติต่อว่าจะให้ส่งข้อสังเกตให้รัฐบาลหรือไม่ แต่การส่งข้อสังเกตไม่มีผลทางบังคับต่อรัฐบาล จะทำหรือไม่ทำก็ได้ ดีไม่ดีไม่ได้อ่าน สภาส่งเรื่องแบบนี้ไปรัฐบาลหลายครั้ง ไม่เห็นพล.อ.ประยุทธ์เอาไปทำซักเรื่อง
สุดท้าย ขอบพระคุณสำหรับคำติชม แต่เมื่อเป็นมติจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อไทยยืนยันเดินตามมติ และไม่ขอเป็นองค์ประชุมให้พล.อ.ประยุทธ์ยืดอายุต่อไปอีก ส.ส.อย่างผมยอมตกงาน ให้ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ เอาพล.อ.ประยุทธ์ออกไปครับ