รังสิมันต์ โรม เปิดฟังความคิดเห็นร่าง พรบ.ฉุกเฉินฉบับใหม่ แทน พรก.ฉุกเฉินเดิม

นาย รังสิมันต์ โรม ส.ส. พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดรับฟังความคิดเห็น ร่าง พ.ร.บ.ฉุกเฉินฉบับใหม่ เพื่อแทน พ.ร.ก.ฉุกเฉินเดิม

โดยระบุว่า ขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. …. ที่ผมและเพื่อน ส.ส. พรรคก้าวไกลได้ยื่นเสนอต่อรัฐสภาเพื่อมาแทน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ที่รัฐบาลใช้ปกครองประเทศอยู่ในปัจจุบัน (และไม่ยอมเลิกเสียที) กำลังเข้าสู่กระบวนการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วครับ

ธนาธร เรียกร้องกลุ่มอาชีวะ ออกมาส่งเสียงอย่าให้ใครมาแอบอ้างก่อม็อบ

เหตุที่เสนอร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ เพราะพวกเราได้สังเกตเห็นมาตลอดกว่า 4 เดือนของการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน ว่ารัฐบาลมีแต่จะต่ออายุการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปเรื่อยๆ อ้างเหตุต่างๆ นานาสารพัด โดยที่ไม่มีผู้ใดสามารถคัดค้านทัดทานได้ การต่ออายุแต่ละครั้งก็ตามมาด้วยอำนาจสามารถใช้จำกัดสิทธิเสรีภาพได้อย่างกว้างขวาง ทว่ากลับปราศจากซึ่งความรับผิดชอบที่ทัดเทียมกัน

พวกเราจึงไม่อาจปล่อยให้ชะตากรรมของประเทศอยู่ในกำมือของรัฐบาลต่อไปแบบนี้โดยไม่เห็นถึงจุดสิ้นสุดได้ และในฐานะที่พวกเราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ มีอำนาจหน้าที่หลักคือการออกกฎหมาย พวกเราจึงเห็นควรที่จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉุกเฉินฉบับใหม่ เพื่อที่ด้านหนึ่งจะเป็นการยุติการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแบบไม่รู้จบที่เกิดขึ้นอยู่นี้ และอีกด้านหนึ่งก็จะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ของกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินที่จะไม่ยอมให้ผู้ใช้อำนาจอยู่นอกเหนือการตรวจสอบด้วย

โดยร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวมีสาระสำคัญดังนี้

  1. ให้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยฝ่ายบริหารสามารถบังคับใช้ได้คราวละไม่เกิน 30 วัน (เดิมประกาศได้นานสุด 3 เดือน) โดยต้องได้รับความเห็นชอบจาก ครม. ภายใน 3 วัน และจากสภาผู้แทนราษฎรภายใน 7 วันนับแต่วันประกาศ (เดิมไม่ต้องขอสภา) รวมถึงในการขยายระยะเวลาแต่ละครั้งต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเช่นกัน (เดิมไม่ต้องขอสภา) และหลังสิ้นสุดการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้วนายกรัฐมนตรีจะต้องทำรายงานผลการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินต่อสภาผู้แทนราษฎรด้วย (เดิมไม่ต้องรายงานสภา)
  2. ยกเลิกอำนาจในการออกข้อกำหนดห้ามนำเสนอข่าวสาร เพื่อให้สื่อมีอิสระในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร
  3. ยกเลิกข้อยกเว้นที่ให้ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ให้อยู่ในเขตอำนาจของศาลปกครอง และยกเลิกข้อยกเว้นให้พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา และทางวินัย เพื่อให้การใช้อำนาจภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินถูกตรวจสอบได้โดยองค์กรตุลาการ
  4. ในการจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่ต้องสงสัยภายใต้การประกาศสถานการณ์ที่มีความร้ายแรง จะต้องดำเนินการด้วยกระบวนการปรกติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เช่น ควบคุมตัวได้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง (เดิมควบคุมตัวได้นานสุด 7 วัน), ต้องควบคุมตัวภายในสถานีตำรวจที่ญาติและทนายความเข้าถึงได้ (เดิมไม่ให้ควบคุมตัวในสถานีตำรวจ เสี่ยงต่อการนำตัวไปไว้ในสถานที่ลับ)

ประชาชนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว ได้ตามขั้นตอนดังนี้

  1. เข้าไปที่หน้าเว็บตามลิงก์นี้
    https://www.parliament.go.th/section77/survey_detail.php?id=97

หากต้องการดูตัวร่าง พ.ร.บ. สามารถเปิดดูหรือดาวน์โหลดได้จากในหน้าเว็บนี้ครับ

  1. กดปุ่ม “แสดงความคิดเห็น” ด้านล่างสุด เข้าสู่หน้าเว็บถัดไป
  2. ใส่ข้อมูลของผู้ตอบแบบสอบถาม ได้แก่ เพศ, อายุ, ระดับการศึกษา, อาชีพ และความเกี่ยวข้องกับร่าง พ.ร.บ. นี้ (เช่น เป็นประชาชนทั่วไป, เป็นเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงกลาโหม, กระทรวงมหาดไทย, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ)
  3. ตอบคำถามในประเด็นต่างๆ 7 ข้อ ได้แก่

1) สมควรยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 หรือไม่?

2) สมควรให้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จะต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน หรือไม่?

3) สมควรให้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีภายใน 3 วัน และต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรภายใน 7 วัน นับแต่วันประกาศ หรือไม่?

4) สมควรให้การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องได้รับความเห็นชอบคณะรัฐมนตรี และได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร โดยขยายระยะเวลาได้คราวละไม่เกิน 30 วัน หรือไม่?

5) สมควรให้กรณีมิได้ดำเนินการให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาภายในเวลา 7 วันนับแต่วันประกาศ หรือสภาผู้แทนราษฎรไม่ให้ความเห็นชอบ ให้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นอันสิ้นสุดลง หรือไม่?

6) สมควรให้นายกรัฐมนตรีต้องรายงานผลการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินต่อสภาผู้แทนราษฎรภายใน 30 วันนับแต่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสิ้นสุดลง หรือไม่?

7) สมควรกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจจับกุมหรือควบคุมตัวบุคคลได้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง โดยจะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นในลักษณะเป็นผู้กระทำผิดไม่ได้ หรือไม่?

หมอวรงค์ถามชาวพิษณุโลกยอมหรือกลุ่ม ชังชาติ อาศัยวัดทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์

การบินไทย ขอความร่วมมือพนักงานปรับลดเงินเดือนสูงสุด 70 % และลาหยุดโดยไม่รับเงิน

โดยหากเห็นด้วยกับประเด็นของข้อใด ให้เลือก “เห็นด้วย” ในข้อนั้นๆ

หมายเหตุ : จากการทดลองตอบคำถาม พบว่าหากระบุเหตุผลในการตอบแต่ละข้อ ระบบจะ error ดังนั้นขอแนะนำให้เลือกตัวเลือก เห็นด้วย/ไม่เห็นด้วย โดยไม่ต้องระบุเหตุผล (อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถลองระบุเหตุผลดูก่อนได้ เพื่อพิสูจน์ระบบว่าใช้ได้หรือไม่)

  1. ที่ด้านล่างสุด กรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก และกดปุ่ม “ร่วมแสดงความคิดเห็น” เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ

ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะเก็บข้อมูลบัตรประชาชนของผู้แสดงความคิดเห็นเป็นความลับ และรายละเอียดของการแสดงความเห็นบุคคลอื่นไม่สามารถดูได้ครับ

ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ฉุกเฉินฉบับนี้ ที่จะไม่ยอมให้รัฐบาลสามารถเพิ่มอำนาจให้ตัวเองได้ตามอำเภอใจจากการที่สามารถประกาศใช้กฎหมายพิเศษได้โดยพลการ โดยจะต้องให้สภาผู้แทนราษฎรเข้ามามีส่วนร่วมในการถ่วงดุลการใช้อำนาจ ยกเลิกอำนาจที่ล่วงล้ำสิทธิและเสรีภาพโดยไม่มีความจำเป็น และจะไม่มีการยกเว้นให้เจ้าหน้าที่อยู่นอกเหนือการตรวจสอบจากศาลได้อีก ทั้งหมดนี้เพื่อป้องกันการลุแก่อำนาจของผู้ปกครองที่มีต่อประชาชนผ่านการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

ร่วมด้วยช่วยกันเข้ามาแสดงความเห็นก่อนที่จะสิ้นสุดช่วงเวลารับฟังนะครับ

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

เหตุเครนถล่มวุ่น! คนงานปิดล้อมตร.-จนท. ไม่ให้นำศพออกจากจุดเกิดเหตุ

วุ่นนาน 3 ชม. คนงานไซต์ก่อสร้าง ไม่ยอมให้กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตเหตุ เครนถล่ม ออกจากพื้นที่ หวั่นไม่ได้รับเงินชดเชย ตามที่ร้องขอ

ด่วน! เครนยักษ์ ถล่มทับคนงาน เบื้องต้นมีรายงานการเสียชีวิต 6 ราย

ด่วน! เครนยักษ์ ถล่มทับคนงาน ไซด์งานก่อสร้าง ในโรงงานแห่งหนึ่ง ในจ.ระยอง เบื้องต้นมีรายงานการเสียชีวิต 6 ราย

ทัวร์ลงยับ! หนุ่มสงสัย หลังได้ใบสั่ง ‘ไม่จอดรถให้คนข้าม’ ลั่น ข้อหานี้มีด้วยเหรอ?

หนุ่มสงสัย! โพสต์โวยได้ใบสั่ง ‘ไม่จอดรถให้คนข้ามถนน’ แต่คดีพลิก เมื่อชาวเน็ตพาทัวร์ย้อนกลับ ไปสอบใบขับขี่มาจากไหน

เจ้าของร้านหมูกระทะ แจงดราม่า ใช้ไม้เรียวตีพนักงาน เป็นไปตามข้อตกลง

แขวะกลับแรง! เจ้าของร้านหมูกระทะ ย่านพัทยา แจงดราม่า ใช้ไม้เรียวตีพนักงาน พร้อมโพสต์เฟซฟาดชาวเน็ต อย่าตัดสินอะไรที่ยังไม่รู้จากปาก
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า