วันนี้ 10 ธ.ค. 63 นาย รังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล หลายคนอาจมองว่าเป็นวันรัฐธรรมนูญ แต่ผมมองว่าที่จริงแล้ว วันรัฐธรรมนูญนั้นคือวันที่ 27 มิถุนายน เพราะเป็นวันที่คณะราษฎรประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรกเมื่อปี 2475 ส่วนวันที่ 10 ธันวาคมนั้น เป็นวันที่รัชกาลที่ 7 ทรงลงพระปรมาภิไธยในรัฐธรรมนูญฉบับที่สองของประเทศ ซึ่งมีนัยยะแห่งการประนีประนอมระหว่างชนชั้นนำกับคณะราษฎร
อันที่จริงแล้ว ในวันนี้มีวาระที่มีความสำคัญกว่านั้นอยู่ เพราะวันนี้เป็นวันสิทธิมนุษยชนสากล ซึ่งเป็นบรรทัดฐานทางสังคมสากลที่มีการตื่นตัวขึ้นมากโดยเฉพาะหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ราษฎร จี้ยกเลิกกฎหมายหมิ่นเจ้า เปิดตัว เว็บไซต์ no 112 .co
ฟันเฟืองประชาธิปไตย ประกาศ ถอนตัวจากการ์ดภาคีฯ ชี้ห่วงอาชีวะเยาวชน
ความสำคัญของสิทธิมนุษยชนนั้น คือ การที่ทำให้มนุษย์ทุกคนตระหนักในคุณค่าของตนเอง ไม่ให้มองทั้งตัวเองและผู้อื่นอย่างลดทอนคุณค่าเป็นเพียงแค่สิ่งที่ต้อยต่ำไปกว่าใคร และด้วยใจกลางสำคัญเช่นนี้เองที่ทำให้ก่อเกิดความเปลี่ยนแปลงและก้าวหน้าของโลก เช่น การเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงการศึกษาอย่าวมีคุณภาพโดยเท่าเทียมกัน การที่ผู้หญิงได้ออกมาทำงาน มีขีวิตเป็นของตนเอง การที่เราเคารพความแตกต่างทางเพศ เชื้อชาติ และความเชื่อต่าง ๆ บนพื้นฐานที่เราต่างแสดงความเห็นอันแตกต่างนั้นออกมาได้ ฯลฯ
5 เรื่องน่ารู้ วันรัฐธรรมนูญ ประเทศไทย ฉบับปัจจุบันร่างโดย กรธ.
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2475 คณะราษฎร เคยได้วางหลัก 6 ประการเอาไว้ ซึ่งเป็นการกล่าวและตระหนักถึงประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเรียกได้ว่า “เป็นผู้มาก่อนกาล” หากแต่กระบวนการการเรียนรู้ถึงสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ เหล่านี้ได้ถูกหยุดลงด้วยการรัฐประหารและบิดเบือนหลักการต่าง ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า จนในวันนี้ ประเทศที่ไทยเคยภูมิใจว่าสามารถเอาตัวรอดในโจทย์ใหญ่ของศตวรรษที่ 19 อย่างการล่าอาณานิคมได้ กลับสอบตกอย่างหมดท่าในศตวรรษที่ 20 ซึ่งให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนอย่างมาก
จนมาถึงในปัจจุบัน ศตวรรษที่ 21 ได้นำพาให้โลกเชื่อมต่อกันอย่างกว้างใหญ่และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้ปัญหาหลายอย่างยิ่งทวีความซับซ้อนยิ่งขึ้น การที่เราได้สอบตกในศตวรรษที่ 20 ประเด็นสิทธิมนุษยชน จึงส่งผลต่อการพัฒนาของประเทศในปัจจุบันอย่างมาก
ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ได้ถูกร่างขึ้นมาโดยเอาการสืบทอดอำนาจเผด็จการซ่อนเป็นที่ตั้ง เราจึงได้เห็นรัฐธรรมนูญที่เปลือกเรียกประชาธิปไตยเพราะไม่อาจต้านทานกระแสโลกาภิวัตน์ได้ แต่ไส้ในกลับเน่าเฟะ เต็มไปด้วยอำนาจนิยม การฉ้อฉล ที่มีรากฐานล้วนมาจากประเทศที่สอบตกในศตวรรษที่ 20 ทั้งสิ้น
จะเห็นได้จากการคุกคามจับกุมคุมขัง การให้ความเห็นไปในเชิงเสริมสร้างให้ทำร้ายหรือด้อยค่าสิ่งเยาวชนที่กล้าจะลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพของเขาเอง ยังไม่ต้องพูดถึงการช่วยทุนใหญ่ผูกขาดตลาด ผูกขาดการเข้าถึงตลาดของผู้ค้ารายใหม่ ขยายขนาดของผู้ค้ารายเก่าโดยรัฐ และปิดกั้นโอกาสในการมีทางเลือกในการบริโภคของผู้บริโภค เหล่าทุนใหญ่ก็กลับมาข่วยให้รัฐบาลฉ้อฉล อันมีรัฐธรรมนูญฉาวโฉ่บังคงอยู่ในอำนาจได้ต่อไป
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเผด็จการเขียนลงในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ความป่าเถื่อนเช่นนี้กำลังพยายามหายใจอยากกระเสือกกระสนเพื่อให้ความคิดแบบเก่า ๆ ล้าหลังที่ล้าหลังยิ่งกว่าอนุรักษ์นิยม
ดังนั้น ผมจึงขอให้พวกเราทุกคนออกมาพูดถึงกันต่อไปเถิดครับว่า ประเทศที่เราเติบโตมานั้น มันมีปัญหาอย่างไรในด้านสิทธิมนุษยชน เราควรพัฒนาตรงจุดไหนให้มากกว่านี้ ตั้งแต่สิทธิในการที่จะมีความคิด สิทธิเหนือร่างกาย ทั้งในการแต่งตัว ในการที่ผู้อื่นจะไม่มาแตะเนื้อต้องตัวโดยไม่ได้รับความยินยอม สิทธิในการสมรสของเพศสภาพที่หลากหลาย สิทธิของผู้พิการ สิทธิในการมีที่ดินทำกิน สิทธิในการเข้าถึงสวัสดิการที่ดี สิทธิในการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาที่ดี สิทธิในการชุมนุมเพื่อเรียกร้องทางการเมือง ฯลฯ เพื่อที่การพิทักษ์สิทธิมนุษยชนของพวกเราชาวไทยจะเข้มแข็งยิ่งขึ้นไปในอนาคต