นาย ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.เขตหลักสี่-จตุจักร พรรคพลังประชารัฐ ได้แจกข้าวสารให้ประชาชนชาวหลักสี่ จตุจักร ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยการลงพื้นที่เคาะประตูบ้านแจกข้าวสาร จำนวน 10,000 ถุง ถุงละ 5 กิโลกรัม ให้กับชาวบ้านในพื้นที่เขตหลักสี่-จตุจักรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เมื่อช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.63 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดในช่วงปีใหม่ 2564 ที่ผ่านมานายสิระ ก็ยังได้ดำเนินการแจกข้าวสารให้ประชาชนชาวหลักสี่ จตุจักร ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระในช่วงสถานการณ์โควิด รวมถึงมีการแจกหน้ากากอนามัยเพื่อใช้ป้องกันการแพร่ระบาดโควิดด้วย เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ในนามกลุ่มเพื่อนสิระ จำนวน 10,000 ถุงอีกครั้ง เมื่อนับรวมการแจกข้าวสารทั้ง 2 รอบก็จะตกอยู่ที่ 20,000 ถุง ส่วนหน้ากากก็น่าจะประมาณ 20,000 ชิ้นเช่นกัน ซึ่งข้าวสารที่แจกเมื่อตรวจสอบราคาที่วางขายในท้องตลาดจะตกถุงละ 79 บาท รวมเป็นเงิน 1,580,000 บาท ส่วนหน้ากากอนามัยประมาณ 50,000 บาท รวมเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 1,630,000 บาท
นายศรีสุวรรณ ระบุว่า การที่ ส.ส.แจกสิ่งของช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เป็นสิ่งที่ดี สามารถทำได้ เพราะถือว่าเป็นการการให้ในแต่ละโอกาสเมื่อมีเหตุอันสมควรและเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยพิบัติ แต่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยจำนวน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของการให้ตามประเพณีหรือเมื่อมีเหตุอันสมควร และการยื่นคัดค้านเกี่ยวกับการบันทึกค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป พ.ศ. 2561 ด้วย ซึ่งได้กำหนดโดยมีราคาหรือมูลค่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะให้ได้ไม่เกิน 300,000 บาท แต่หากเป็นการให้ที่เกินกว่าจำนวนที่กำหนดดังกล่าว กฎหมายกำหนดให้นำไปรวมคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป ทั้งนี้ในการเลือกตั้งเมื่อ 24 มี.ค.62 ที่ผ่านมา กกต.กำหนดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส. แต่ละคนได้ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท
“ดังนั้นการที่นายสิระ เจนจาคะ ได้แจกข้าวสารและหน้ากากให้ประชาชนชาวหลักสี่ จตุจักร ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของตนเองที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากถึงประมาณ 1,630,000 บาท ซึ่งเกินไปกว่าที่ กกต.กำหนดไปมากแล้ว จึงอาจเป็นเหตุทำให้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป นายสิระอาจไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้อีก เพราะแค่ค่าสมัครอย่างเดียวก็ 10,000 บาทแล้ว ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้อมพยานหลักฐานไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อสั่งการให้เลขาธิการ กกต.ตรวจสอบและบันทึกไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ของพรรคการเมืองในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป ตามระเบียบหรือกฎหมายที่กำหนด โดยจะเดินทางไปยื่นเรื่องในวันจันทร์ที่ 1 ก.พ.64 ณ สำนักงานกกต. ” นายศรีสุวรรณ กล่าว
