พรรคก้าวไกล ปล่อยคลิป "ใครชนะไม่รู้…แต่ประชาชนแพ้"

พรรคก้าวไกล ปล่อยคลิป “ใครชนะไม่รู้…แต่ประชาชนแพ้” เจ้าของธุรกิจ SMEs กังวลต่อมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลจากเงินกู้

วานนี้ 25 พ.ค. 63 เพจเฟซบุ๊ก พรรคก้าวไกล ได้โพสต์คลิปวีดิโอและข้อความระบุว่า “ใครชนะไม่รู้…แต่ประชาชนแพ้” ธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อมหรือที่เรียกว่า SMEs คือธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจไทยและมีการจ้างงานสูงที่สุดในประเทศ แต่ที่น่าเศร้าคือวันนี้ SMEs จำนวนมากกำลังจะต้องปิดกิจการลง…

พวกเรา พรรคก้าวไกลได้รับฟังความเดือดร้อนจากพี่น้องประชาชนเจ้าของกิจการ SMEs หลายรายหลายประเภททั้งธุรกิจตัดเย็บเสื้อผ้า ธุรกิจค่ายมวย ธุรกิจสนามกอล์ฟ และธุรกิจสนาม E-Sport โดยพี่น้องประชาชนเหล่านี้ได้สะท้อนปัญหาออกมาในหลายๆ ด้าน รวมทั้งข้อกังวลต่อมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลจากเงินกู้ว่าจะไม่สามารถช่วยเหลือธุรกิจรายย่อยได้จริงๆ ด้วยข้อจำกัดต่างๆ และการที่อาจจะยังไม่ได้แก้ไขปัญหาที่แท้จริงของพวกเขาได้อย่างตรงจุด

ทั้งนี้ภายใต้ต้นทุนที่ต้องแบกรับมหาศาล โดยที่ไม่มีรายได้เข้ามาแม้แต่บาทเดียว ทำให้ด้วยทรัพยากรเงินทุนที่มีอยู่ หากความช่วยเหลือมาไม่ถึงในเดือนมิถุนายน สายป่านที่มีก็จะหมดลง จำเป็นต้องเลิกกิจการและเลิกจ้างพนักงานไปในที่สุด

นอกจากนี้หลายๆ ธุรกิจ SMEs ยังพยายามเฉือนเนื้อรักษาการจ้างงาน เพื่อช่วยเหลือลูกจ้างที่ต่อสู้ด้วยกันมา นี่คือชะตากรรมร่วมที่ SMEs ไทยกว่า 2 ล้านราย ต้องเผชิญร่วมกันในวันนี้ คาดการณ์ว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปคงหนีไม่พ้น ที่จะได้เห็นธุรกิจ SMEs ล้มหายตายจากไปถึง 4-6 แสนราย ซึ่งจะทำให้ลูกจ้างจะต้องตกงานอีกนับสิบล้านคน ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดตกอยู่ในมือกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ที่จะทำให้การผูกขาดมากขึ้น ส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำสูงมากขึ้นไปอีก โอกาสเกิดนวัตกรรมที่หลากหลายน้อยลง สิ่งเหล่านี้สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยมหาศาลอย่างไม่อาจประเมินค่าได้

เป็นเรื่องน่าเศร้าที่พวกเราพรรคก้าวไกลทั้งไม่อยากให้เกิดขึ้นและจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น เราจึงขอใช้เวทีสภาในการผลักดันความต้องการของพี่น้องประชาชนให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม และเป็นพลังเคียงข้างพี่น้องประชาชนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ SMEs ทุกท่าน

ใครชนะไม่รู้…แต่ประชาชนแพ้
[ ใครชนะไม่รู้…แต่ประชาชนแพ้ ].ธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อมหรือที่เรียกว่า SMEs คือธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจไทยและมีการจ้างงานสูงที่สุดในประเทศ แต่ที่น่าเศร้าคือวันนี้ SMEs จำนวนมากกำลังจะต้องปิดกิจการลง….พวกเรา พรรคก้าวไกลได้รับฟังความเดือดร้อนจากพี่น้องประชาชนเจ้าของกิจการ SMEs หลายรายหลายประเภททั้งธุรกิจตัดเย็บเสื้อผ้า ธุรกิจค่ายมวย ธุรกิจสนามกอล์ฟ และธุรกิจสนาม E-Sport โดยพี่น้องประชาชนเหล่านี้ได้สะท้อนปัญหาออกมาในหลายๆ ด้าน รวมทั้งข้อกังวลต่อมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลจากเงินกู้ว่าจะไม่สามารถช่วยเหลือธุรกิจรายย่อยได้จริงๆ ด้วยข้อจำกัดต่างๆ และการที่อาจจะยังไม่ได้แก้ไขปัญหาที่แท้จริงของพวกเขาได้อย่างตรงจุด.ทั้งนี้ภายใต้ต้นทุนที่ต้องแบกรับมหาศาล โดยที่ไม่มีรายได้เข้ามาแม้แต่บาทเดียว ทำให้ด้วยทรัพยากรเงินทุนที่มีอยู่ หากความช่วยเหลือมาไม่ถึงในเดือนมิถุนายน สายป่านที่มีก็จะหมดลง จำเป็นต้องเลิกกิจการและเลิกจ้างพนักงานไปในที่สุด.นอกจากนี้หลายๆ ธุรกิจ SMEs ยังพยายามเฉือนเนื้อรักษาการจ้างงาน เพื่อช่วยเหลือลูกจ้างที่ต่อสู้ด้วยกันมา นี่คือชะตากรรมร่วมที่ SMEs ไทยกว่า 2 ล้านราย ต้องเผชิญร่วมกันในวันนี้ คาดการณ์ว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปคงหนีไม่พ้น ที่จะได้เห็นธุรกิจ SMEs ล้มหายตายจากไปถึง 4-6 แสนราย ซึ่งจะทำให้ลูกจ้างจะต้องตกงานอีกนับสิบล้านคน ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดตกอยู่ในมือกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ที่จะทำให้การผูกขาดมากขึ้น ส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำสูงมากขึ้นไปอีก โอกาสเกิดนวัตกรรมที่หลากหลายน้อยลง สิ่งเหล่านี้สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยมหาศาลอย่างไม่อาจประเมินค่าได้.เป็นเรื่องน่าเศร้าที่พวกเราพรรคก้าวไกลทั้งไม่อยากให้เกิดขึ้นและจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น เราจึงขอใช้เวทีสภาในการผลักดันความต้องการของพี่น้องประชาชนให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม และเป็นพลังเคียงข้างพี่น้องประชาชนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ SMEs ทุกท่าน.#ก้าวไกล #โควิด19 #Covid19 #ประชุมสภา
โพสต์โดย พรรคก้าวไกล – Move Forward Party เมื่อ วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม 2020