วีระ สมความคิด ออกมาแฉ พล.ต.อ.ศรีวราห์ สั่งตำรวจท้องที่ราชบุรีหยุดทำคดี ปารีณา รุกป่าสงวน ชี้คดีนี้ 1 เดือนไมมีความคืบหน้า
จากกรณี นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ได้ไปแจ้งความกับ สภ.จอมบึง ให้ดำเนินคดีกับนายทวี ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี และ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ สส.พรรคพลังประชารัฐ ในข้อหา บุรุกป่าสงวนกว่า 46 ไร่ ใกล้แม่น้ำภาชี และครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.โดยมิชอบ กว่า 683 ไร่ ต่อมาเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ บก.ปทส. เพื่อดำเนินคดีกับ นายทวี และ น.ส.ปารีณา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ม.ค. นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชน ต้านคอร์รับชั่น นำเอกสารหลักฐาน เข้าพบ พ.ต.อ.ศรานุ โสมทัต ผกก.5 บก.ปทส. เพื่อติดตามสอบถามความคืบหน้ากับการดำเนินคดีดังกล่าว เนื่องจาก บก.ปทส.ได้รับมอบบมอบอำนาจให้ดำเนินคดีดังกล่าวจากพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.2563 ที่ผ่านมา
นายวีระ กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวพร้อมนำหลักฐาน คำพิพาษาฎีกาและมีการให้การเพิ่มเติม หลังคดีดังกล่าวใช้เวลาผ่านมาเป็นเวลา 1 เดือน โดยที่คดีไม่มีความคืบหน้าเลย ซึ่งหน้าที่รับผิดชอบคดีขณะนี้ทราบว่าเป็นของบก.ปทส. โดยมีการสั่งการจากผบ.ตร. ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. และเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา ก็ได้มีการประชุมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยมีพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมด้วย

นายวีระ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีนี้เป็นคดีที่สามารถดำเนินการได้ทันทีตามป.วิอาญา และมีความผิดที่สามารถเห็นได้ชัดเจน ซึ่งทางคุณปารีณาก็ยืนยันตลอดว่าที่ดินเป็นของตนเองและครอบครองมานานหลายสิบปีแล้ว ซึ่งหากเป็นคดีของชาวบ้านตาสีตาสาเรื่องคงถึงศาลและถูกดำเนินคดีไปนานแล้วอย่างที่ทุกคนเห็น อยู่ที่เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีหรือไม่ หรือมีใครเข้ามายุ่งเหยิงกับเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนหรือไม่ ตนยืนยันว่าต้องการดำเนินคดีกับน.ส.ปรีณา และนายทวี กับทั้ง2 คนและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวด้วย โดยขณะนี้ความผิดของทั้ง2 คนอาจเข้าข่ายการฟอกเงินด้วยตามมาตราการ ปปง. อีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา นายวีระ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศรานุ เพื่อพูดคุยภายในสำนักงาน กก.5 บก.ปทส. นานประมาณ15 นาที โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมรับฟัง
นายวีระ กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยและดูเอกสารพบว่าคำสั่งเพิ่งมาถึงเมื่อวาน(วันที่8 ม.ค.)แต่มาเพียงคำสั่งเท่านั้น ส่วนสำนวนและพยานหลักฐานต่างๆ ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อ้างว่าสำนวนอยู่ที่กองบัญชาการสืบสวนกลาง แต่เมื่อตรวจสอบไปแล้วพบว่าไม่มี มีการส่งมาแล้ว ไม่รู้สำนวนไปไหน อีกทั้งเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน บก.ปทส. ยังพูดกับตนว่าไม่สนใจคำพิพากษาศาลฎีกา จะสนใจแต่คำสั่งของนิติกรป่าไม้เท่านั้น ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ต้องแต่งตั้งชุดคณะทำงานขึ้นมาอีกยิ่งอาจทำให้คดียิ่งล่าช้าไปอีก เรื่องนี้ตนไม่เคยท้อ แต่จะตามคดีทุกวัน เรื่องนี้จะจบลงยังไง คนทั่งประเทศรอดูอยู่ ตนบอกเลยว่าเป็นเพราะรัฐบาลอยู่เบื้องหลัง เจ้ามายุ่งวุ่นวายกับเรื่องนี้จนเจ้าหน้าที่ทำงานไม่ได้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ บก.ปทส. โดยที่ กรมป่าไม้ สปก. สภ.จอมบึง สภ.สวนผึ้ง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมีพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ที่ปรึกษาพิเศษนายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะร่วมประชุมด้วยและสั่งให้สภ.สวนผึ้ง และจอมบึง หยุดทำคดีนี้ โดยส่งไปที่ส่วนตำรวจภูธรภาค 7 ส่งเรื่องต่อไปยังกองบัญชาการสอบสวนกลาง
อ่านข่าว Bright Today